จากกรณี ช่วงกลางดึกของวันที่ 25 มิ.ย. ที่ผ่านมา MR.ARMAN KARIMIABADI อายุ 35 ปี ผู้เสียหาย นักท่องเที่ยวชาวอิหร่าน ได้ติดต่อซื้อบริการทางเพศกับสาวประเภทสอง รูปร่างและหน้าตีคล้ายกับผู้หญิง ไปร่วมหลับนอน แต่ปรากฏว่าเมื่อมาถึงโรงแรมแห่งหนึ่ง กลางซอยบัวขาว ย่านพัทยากลาง แล้วทราบว่าสาวประเภทสองคนดังกล่าวไม่ใช่ผู้หญิง จึงเกิดการโต้เถียงทะเลาะวิวาทฉุดกระชากลากเหวี่ยงกันขึ้น ก่อนสาวประเภทสองจะฉวยโอกาสลักเงินสดจำนวน 4,000 บาท ของผู้เสียหายระหว่างผู้เสียหายอาบน้ำติดมือไปด้วย จากนั้นได้รีบขับรถจักรยานยนต์หลบหนีไปอย่างรวดเร็ว ตามที่รายงานไปแล้วนั้น
26 มิ.ย.60 ความคืบหน้าล่าสุดสำหรับคดีนี้ พ.ต.ท.ปิยะพงษ์ เอนสาร สว.ส.ทท.4 กก.2 บก.ทท. ได้นำกำลังตำรวจท่องเที่ยวเมืองพัทยา พร้อมด้วยชุดสืบสวนสภ.เมืองพัทยา นำโดย พ.ต.ท.พงศ์สุรวัฒน์ วงษ์สารัมย์ สว.สส.ฯ ถือหมายศาลจังหวัดพัทยาที่ จ.270/2560 ฐาน"ลักทรัพย์ผู้อื่นในเวลากลางคืน" เข้าจับกุมตัวผู้ก่อเหตุคือ นายอารยา ผาสุข ฉายา "ชมพู่ จอมฉก" อายุ 27 ปี ขณะกำลังนอนเล่นอยู่ในห้องเช่าแห่งหนึ่ง ถนนพัทยาสายสาม ย่านพัทยากลาง
พ.ต.ท.ปิยะพงษ์ เอนสาร สว.ส.ทท.4 กก.2 บก.ทท. เปิดเผยว่า หลังจากเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้นิ่งนอนใจ เพราะเนื่องจากเป็นคดีทำให้เสียภาพลักษณ์ของการท่องเที่ยวเมืองพัทยาอย่างมาก จึงร่วมกับชุดสืบสวน สภ.เมืองพัทยา ลงพื้นที่ตรวจสอบภาพกล้องวงจรปิด สืบสวนจนทราบว่า นายอารยา เป็นผู้ก่อเหตุ จึงรวบรวมพยานหลักฐานให้พนักงานสอบสวนขออนุมัติหมายจับกับศาลจังหวัดพัทยา ก่อนจะสามารถจับกุมได้ไว้ที่ห้องพัก นอกจากนี้ ยังมีเบาะแสด้วยอีกว่า ผู้ก่อเหตุ ได้ตกเป็นเป้าหมายของตำรวจภูเก็ตอีกด้วย เพราะมีพฤติกรรมลักทรัพย์นักท่องเที่ยวในพื้นที่ภูเก็ต แต่ได้แค่เพียงเฝ้าระวังบุคคลดังกล่าว เนื่องจากหลักฐานไม่เพียงในการเอาผิด
เบื้องต้น ผู้ก่อเหตุให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา และยืนยันว่าไม่ได้เป็นผู้เอาเงินไป แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจมีหลักฐานเพียงพอที่จะเอาผิด จึงควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทยา ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป