คอเหล้าขาวกระอักบวกภาษีอีกเท่าตัวบุหรี่ขึ้นราคา1-3บ.

ครม.ไฟเขียวปรับเพิ่มภาษีเหล้าขาวเท่าตัว รีดภาษีบุหรี่เต็มเพดาน


หวังสกัดขี้เมา-สิงอมควัน ด้านผู้ประกอบการเตรียมหารือปรับราคา ติงรัฐไม่จริงใจในการขึ้นราคาเหล้าขาว ขณะที่ศูนย์วิจัยปัญหาสุราระบุรัฐสร้างภาพลวงตาในการขึ้นภาษี เพราะขึ้นไม่เต็มเพดาน


นายวิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.)

มีมติเห็นชอบให้มีการปรับอัตราภาษีสุราและยาสูบ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ เพื่อสนับสนุนนโยบายรัฐบาลในการควบคุมการบริโภคสุราและยาสูบให้อยู่ในระดับเหมาะสม และทำให้สะท้อนถึงความแรงของแอลกอฮอล์มากยิ่งขึ้น กระทรวงการคลังจึงดำเนินการปรับขึ้นอัตราภาษีสุราและยาสูบ ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ทันที


ทั้งนี้ การปรับภาษีดังกล่าว ได้แก่

• 1.สุราขาว จากเดิมจัดเก็บภาษีตามมูลค่าในอัตรา 25% และอัตราตามปริมาณ 70 บาทต่อลิตรแห่งแอลกอฮอล์บริสุทธิ์ เพิ่มขึ้นเป็นคิดตามมูลค่า 50% และเก็บตามปริมาณเพิ่มเป็น 110 บาทต่อลิตร ส่งผลให้ราคาขายปลีกสุราขาว 28-40 ดีกรี ขนาด 0.625 ลิตร เพิ่มขึ้นประมาณ 9-12 บาทต่อขวด

• 2.สุราผสม จากเดิมเก็บภาษีในอัตรา 50% และเก็บตามปริมาณ 240 บาทต่อลิตรแห่งแอลกอฮอล์บริสุทธิ์นั้น ได้ปรับเพิ่มในส่วนของการเก็บตามปริมาณเป็น 280 บาทต่อลิตรแห่งแอลกอฮอล์บริสุทธิ์ ส่งผลให้ราคาขายปลีกสุราผสม 28-35 ดีกรี ขนาด 0.625 ลิตร เพิ่มขึ้นประมาณ 9-12 บาทต่อขวด


• 3.สุราพิเศษประเภทบรั่นดีจากเดิมเก็บภาษีตามมูลค่าในอัตรา 40% และจัดเก็บตามปริมาณ 400 บาทต่อลิตรแห่งแอลกอฮอล์บริสุทธิ์ เพิ่มเฉพาะในส่วนของการจัดเก็บตามมูลค่าเป็น 45% ส่วนตามปริมาณคงเดิม ส่งผลให้ราคาขายปลีกบรั่นดี 38-40 ดีกรี ขนาด 0.640 ลิตร เพิ่มขึ้นประมาณ 0-91 บาทต่อขวด

• 4.ปรับเพิ่มค่าแสตมป์ยาสูบชนิดบุหรี่ซิกาแรต จากเดิมจัดเก็บตามมูลค่าที่ 79% เพิ่มเป็น 80% เต็มเพดาน ส่งผลให้ราคาขายปลีกบุหรี่ในประเทศเพิ่มขึ้นประมาณ 1-2 บาทต่อซอง และบุหรี่นำเข้าเพิ่มขึ้นประมาณ 2-3 บาทต่อซอง


นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า ผลจากการปรับเพิ่มอัตราภาษีสุราและยาสูบดังกล่าวเป็นอัตราที่เหมาะสม


น่าจะช่วยให้ปริมาณการบริโภคสุราลดลงประมาณ 60-65 ล้านลิตรต่อปี และการบริโภคยาสูบประเภทซิกาแรตจะลดลงประมาณ 20 ล้านซองต่อปี อีกทั้งยังช่วยลดรายจ่ายของรัฐบาลด้านการรักษาผู้ป่วยด้วย ขณะเดียวกัน ส่งผลให้รัฐบาลมีรายได้จากการปรับเพิ่มภาษี 2 ประเภท รวมเป็นเงิน 6,000 ล้านบาทต่อปี


ส่วนเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ได้รับประโยชน์ครั้งนี้ คือ

เบียร์ ไวน์ สาโท อุ กระแช่ สปาย เนื่องจากต้องการสนองนโยบายรัฐที่ต้องการให้ประชาชนดื่มเหล้าดีกรีต่ำแทนดีกรีสูงที่ทำลายสุขภาพมากกว่า อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ได้มีการพิจารณาว่าจะปรับขึ้นภาษีเบียร์ด้วย แต่พบว่าขณะนี้เบียร์ ซึ่งจัดเก็บภาษีตามมูลค่าเมื่อแปรมาเป็นการจัดเก็บตามปริมาณจ่ายภาษีสูงกว่าเหล้ากลั่นอยู่กว่า 320 บาทต่อลิตร อีกทั้งดีกรีเบียร์ก็ต่ำกว่าเหล้ากลั่นหรือเหล้าขาวอยู่แล้ว จึงไม่มีการปรับขึ้นภาษีในครั้งนี้ ซึ่งอาจมีผลต่อพฤติกรรมการดื่มของประชาชนบ้าง โดยผู้บริโภคอาจหันมาดื่มเบียร์เพิ่มขึ้น


ด้านนายวิโรจน์ จันทรโมลี รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจำหน่ายสุราขาวและเหล้าสี เช่น แม่โขง แสงโสม กล่าวว่า

ขณะนี้บริษัทยังไม่ทราบรายละเอียดที่ชัดเจนเกี่ยวกับการปรับภาษีสุรา ซึ่งเบื้องต้นเมื่อภาษีเพิ่มขึ้นก็จำเป็นต้องปรับราคาขายตามต้นทุนที่สูงขึ้นไปด้วย แต่คงต้องขอดูหลักการที่ชัดเจนก่อนจึงจะตอบได้ว่าจะปรับขึ้นเมื่อใด และจำนวนเท่าใด เพราะต้องคำนวณตัวเลขตามสูตรก่อน โดยบริษัทเตรียมเรียกประชุมผู้บริหารระดับสูงในวันที่ 29 สิงหาคมนี้ เพื่อประเมินสถานการณ์ และหารือถึงการปรับราคาสินค้าก่อนตัดสินใจ


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์