วันที่ 21 มิ.ย. เวลา 14.30 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ เดินทางมาที่สหกรณ์โคนมขอนแก่น จำกัด โดยมีเกษตรกรในจ.ขอนแก่น ให้การต้อนรับกว่า 1,200 คน ซึ่งทันทีที่รถของนายกฯ มาถึงบริเวณเวทีกลาง เรียกเสียงฮือฮาให้กับผู้ที่มาต้อนรับอย่างมาก เพราะส่วนใหญ่ต่างเฝ้าจับตาดูรถที่นายกฯ ในการปฎิบัติภารกิจตลอดทั้งวันในวันนี้ ซึ่งนายกฯ นั่งรถตู้โตโยต้าอัลพลาส สีขาวหมายเลขทะเบียน กง-5050 ขอนแก่น ชาวบ้านส่วนใหญ่ต่างหยิบโทรศัพท์มือถือถ่ายภาพหมายเลขทะเบียนรถ พร้อมส่งไลน์และเฟซบุ๊กให้กับคนในครอบครัวและเพื่อนๆ อย่างรวดเร็ว
ทั้งนี้ นายกฯ ได้มอบงบสนับสนุนการก่อสร้างโรงรวบรวมน้ำนมดิบ และโรงผสมอาหารสัตว์ มอบเงินให้กับธนาคารสินค้าเกษตรตามโครงการโคนมทดแทนฝูง 4,950,000 บาท มอบเงินโครงการยางพาราปูพื้นโรงเลี้ยงโคนม 1,990,000 บาท มอบเครื่องตรวจอัลฟาท็อกซินในน้ำนม และมอบเอกสารสิทธิ์ที่ดินทำกิน ส.ป.ก.4-01 ให้กับเกษตรกร 5 แปลง พร้อมเยี่ยมชมนิทรรศการภาพรวมการพัฒนาการเกษตร และโรงผลิตนมโรงเรียน ชมการสาธิตการตรวจสอบคุณภาพนมโรงเรียนและยังร่วมดื่มนมโรงเรียนร่วมกับเด็กๆในชุมชนด้วย
โดยนายกฯ กล่าวว่า ดีใจที่ได้พบเกษตรกร อยากให้เกษตรกรช่วยกันสร้างความเข้มแข็งให้กับตัวเอง ระเบิดจากข้างใน ไม่ต้องรอความช่วยเหลือจากรัฐบาลอย่างเดียว แต่ทุกคนต้องทีเป้าหมาย มีแผน ใช้เทคโนโลยีปรับตัวให้ทันโลก เพราะไม่มีรัฐบาลไหนยกหนี้ให้เกษตรกรได้ทั้งหมด และตนไม่สามารถใช้มาตรา 44 เข้ามาช่วยได้ ซึ่งรัฐบาลก็มีมาตรการดูแลช่วยเหลือลูกหนี้ ยืนยันรัฐบาลตั้งใจเข้าใจบริหารความยากจน ตั้งแต่เข้ามาบริหารประเทศได้ 3 ปี ไม่สามารถนอนตาหลับได้เพราะต้องคิดถึงการแก้ปัญหาให้กับทุกคน รัฐบาลจะต้องช่วยเหลือทุกคนอย่างเท่าเทียม นักการเมืองและส.ส.ก็ต้องคิดแบบนี้ ไม่ใช่จะช่วยเหลือเฉพาะกลุ่ม
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ขอบคุณที่ไปตอบคำถาม 4 ข้อของตน หากใครไม่ไปก็ขอให้ปตอบโดยไม่บังคับ เพียงแต่รำคาญพวกบิดเบือนว่าคนมาตอบคำถามน้อย ไม่ให้ความร่วมมือกับรัฐบาล อย่างไรก็ตาม อยากให้ไปศึกษาแง่คิด 50 ข้อสำหรับการเป็นประชาธิปไตยที่ดี ยืนยันว่ารัฐบาลนี้ให้ความสำคัญกับคนจน อย่างพ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ โดยนั่งยัน นอนยัน จะไม่ยกเลิกโครงการ 30 บาท แต่ที่แก้กฎหมายก็เพื่อให้บริการประชาชนให้มากขึ้นและเพิ่มวงเงินรักษาต่อหัวให้มากขึ้น
ในช่วงท้าย นายกฯ ยอมรับว่าการชี้แจงกับประชาชนครั้งละนานๆ ก็ทำให้เหนื่อย แม้จะมีคนตั้งใจฟังน้อย สู้เพลงผู้สาวขาเลาะของลำไย ไหทองคำ ไม่ได้ เพื่อให้ประชาชนเข้าใจ และกรณีของลำไย ส่วนตัวไม่ว่าอะไร เป็นเรื่องสนุกสนาน เพียงแต่อยากสะกิดสังคม
นายกฯ ยังได้นำผ้าขาวม้าที่ชาวบ้านนำมาคาดเอวมาเช็ดเหงื่อ และหอม พร้อมให้ข้อคิดว่า หากเราจะรักใครต้องดูว่าเขารักเราหรือไม่ ถ้าเขาไม่รักเราก็อย่าไปให้ความสำคัญเพราะคนเหล่านี้ไม่เหมือนตนที่แม้จะมีบางส่วนไม่รักตน แต่ตนก็รักและจะทำเพื่อทุกคน