ส.ก.โวยแหลกพ.ต.ท.ขี้แพ้ชวนตี

แจงเหตุละเอียดยิบ “พ.ต.ท.บัญชา”เข้าไปเล่นในสนามชนไก่ในฐานะนักพนัน ตีไก่ 3 คู่แรกได้เงินหลายหมื่นเก็บเงียบ คู่ 4 เพิ่มเดิมพันหลายแสน พอไก่ที่ถือหางจะเพลี่ยงพล้ำ ใช้วิธีแสบ กระโดดลงสังเวียนอุ้มไก่ แล้วประกาศตัวเป็นตำรวจกองปราบหน้าตาเฉย ชี้ มีพฤติกรรม”แพ้แล้วโวย”แบบนี้บ่อยครั้ง จนหลายบ่อนเอือมระอา ติดรูปหน้าประตูห้ามเข้า ยอมรับเป็นผู้รับสัมปทานบ่อนไก่ลำลูกกา ขออนุญาตถูกกฎหมาย ยันไม่ยอมความ
ด้าน “รอง ผกก.” คู่กรณี แจงผู้บังคับบัญชา ยัน ไปสืบจับนักพนันจริง

ตามแกะรอยนานนับเดือน ส่วนที่ลงไปอุ้มไก่เพราะต้องการของกลาง แจ้ง 4 ข้อหาหนัก “ส.ก.เก่ง” ส่วนผู้ว่าเมืองปทุม ระบุ สนามชนไก่ที่เกิดเหตุถูกกฎหมาย ส่วนผู้การฯ พร้อมให้ความเป็นธรรม กรณี พ.ต.ท.บัญชา คล้ายน้อย รอง ผกก.2 บก.ป.เข้าแจ้งความตำรวจ สภ.อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี ว่าถูกนายการุณ หรือเก่ง โหสกุล ส.ก.เขตดอนเมือง กับพวกรุมทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บ ภายในสนามชนไก่คลอง 5 หมู่ 14 ต.บึงคำพร้อย อ.ลำลูกกา ขณะเข้าไปแฝงตัวเล่นการพนันตามคำสั่งผู้บังคับบัญชา เพื่อสืบจับผู้ลักลอบเล่นการพนัน ขณะที่ฝ่ายนายการุณ ก็แจ้งความกลับ พ.ต.ท.บัญชา เช่นกัน ในข้อหาก่อความวุ่นวาย และทำลายทรัพย์สิน อ้างว่าสนามไก่ชนถูกกฎหมาย พ.ต.ท.บัญชา จะเสียพนันหลายแสนบาท เลยมาอุ้มไก่ที่กำลังจะถูกตีแพ้ออกจากสนาม เหมือนพวกขี้แพ้ชวนตี 

ส.ค.พ.ต.ท.บัญชา คล้ายน้อย รอง ผกก.2 บก.ป. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ร่วมปฏิบัติหน้าที่เข้าชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าวต่อ พล.ต.ต. เอกรัตน์ มีปรีชา รอง ผบช.ก. และ พ.ต.อ.วิชิต ปักษา ผกก.2 บก.ป. จากนั้น พ.ต.ท.บัญชา ออกมาเปิดเผยภายหลังเข้าชี้แจงต่อผู้บังคับบัญชาว่า ยืนยันว่าการเข้าจับกุมดังกล่าว เป็นไปตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชา ตามที่ได้รับร้องเรียนมาว่า ที่สนามชนไก่ดังกล่าวลักลอบเปิดชน ไก่มากเกินกว่าที่ได้รับอนุญาต นอกจากนี้ยังปล่อยปละละเลยให้เยาวชนเข้าไปเล่นการพนันกันจำนวนมาก ซึ่งคดีนี้ตนได้สืบสวนมาเป็นเวลานานนับเดือนแล้ว พบว่ามีการกระทำผิดจริง เช่น ลักลอบเปิดบ่อนพนันชนไก่ถึง 5 สังเวียน ซึ่งเกินกว่าที่ได้อนุญาตไว้ นอกจากนี้ยังปล่อยให้เยาวชนเข้าไปมั่วสุมจึงวางแผนเข้าจับกุมร่วมกับตำรวจทางหลวง และตำรวจท้องที่
 
พ.ต.ท.บัญชา กล่าวต่อว่า ขณะแสดงตัวเข้าจับกุมได้แสดงบัตรเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้วเข้าไปอุ้มไก่ชนคืนให้กับเจ้าของเพื่อแสดงตัวขอตรวจสอบ

แต่นายการุณเดินเข้ามากระชากคอเสื้อดึงตนเข้าไปหาแล้วเอาศีรษะโขกหน้าตนจนล้มลงกับพื้นแต่ตนก็ห้ามลูกน้องไม่ให้ตอบโต้ใด ๆ เพราะเกรงว่าเรื่องจะบานปลาย ให้ควบคุมสถาน การณ์ไว้เท่านั้น เพราะมีกลุ่มนักพนันนับร้อยคนที่ไม่พอใจในการเข้าจับกุม โดยหลังจากตำรวจท้องที่เข้ามาช่วยระงับเหตุ ทาง ผกก.สภ.อ.ลำลูกกา ได้เรียกผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดไปคุยกันในห้องทำงาน แต่ขณะนั่งคุยกันอยู่นั้นนายการุณก็ยังด่าทอด้วยถ้อยคำหยาบคาย พูดจาดูหมิ่นต่าง ๆ นานา มิหนำซ้ำนายการุณยังตีศอกใส่หน้าตนจนใต้ตาซ้ายแตกเลือดไหลซิบ ๆ ต่อหน้าต่อตาผู้กำกับการ 
 
ผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีมีการกล่าวหาว่าตำรวจเข้าไปเล่นพนันจนเสียจึงต้องหาเรื่องเข้า จับกุม นั้น พ.ต.ท.บัญชา กล่าวว่า

ที่กล่าวหาว่าตนเล่นพนันแพ้แล้วจะเบี้ยวไม่ยอมจ่าย จนถึงขั้นลงไปอุ้มไก่ในสังเวียน ขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริง เพราะการจับกุมการพนันจะต้องมีของกลาง ไก่ที่ชนกันอยู่ในสังเวียนจึงเป็นของกลาง ก็เลยต้องเข้าไปอุ้มไก่เพื่อจะถ่ายรูปไว้เป็นหลักฐาน และหลังจากนั้นตนก็คืนไก่ให้กับเจ้าของไปแล้ว ซึ่งขั้นตอนทุกอย่างมีการถ่ายรูปไว้เป็นหลักฐานทั้งหมด

   
ทุกเรื่องเป็นไปตามข่าวที่ลงทางหนังสือพิมพ์ทั้งหมด ตนได้รับสัมปทานสนามชนไก่ดังกล่าวลงทุนไปประมาณ 5 ล้านบาท มีหุ้นส่วนอีก 3-4 คน ทาง พ.ต.ท.บัญชาก็เป็นคนที่เข้ามาเล่นพนันชนไก่เหมือนกัน โดยในการชนไก่ช่วงแรก 3 คู่ ได้รับเงินไปแล้ว 4-5 หมื่นบาท แต่พอมาถึงไก่คู่ที่ 4 ซึ่งเป็นไก่พรรคพวกของ พ.ต.ท.บัญชา และทาง พ.ต.ท.บัญชา ก็เล่นพนันในวงเงินสูงถึง   4 แสนบาท พอไก่ชนไปแล้ว 2-3 ยก ไก่ที่ พ.ต.ท.บัญชา ถือหางไว้เริ่มจะเพลี่ยงพล้ำเกือบจะแพ้ เจ้าตัวก็กระโดดลงไปในสนามอุ้มไก่ตัวเองออกมาและยุติการแข่งขันเอาดื้อ ๆ แถมยัง แสดงตัวว่าเป็นตำรวจกองปราบปรามด้วย
 
'เขาชูบัตรหราว่าเป็นตำรวจกองปราบฯ อ้างว่าจะมาจับคนเล่นพนันตีไก่ แต่ตอนแรกไก่ของตัวเองตีชนะได้เงินไปแล้วหลายหมื่นบาทกลับไม่แสดงตัวใด ๆ ระหว่างแสดงตัวยังมีท่าทีข่มขู่ สร้างความวุ่นวายในสนาม พูดจาเหมือนคนเมายา มีการโดดทำร้ายผู้อื่นที่เข้าไปห้ามปราม ถึงขั้นนอนเกลือกกลิ้งกับพื้น ผมเข้าไปเคลียร์เลยเกิดชุลมุนขึ้น จากนั้นผมก็โทรศัพท์ไปที่โรงพักลำลูกกา เชิญผู้กำกับมาตรวจสอบเหตุการณ์' ส.ก.เขตดอนเมือง แจง
 
นายการุณ กล่าวต่อว่า ยืนยันว่าสนามชนไก่แห่งนี้ได้รับอนุญาตถูกต้องจาก ผวจ. ปทุมธานี

รวมทั้งได้รับอนุญาตให้ชนไก่ตามเวลาที่กำหนด ไม่ได้เป็นบ่อนเถื่อน ตนยืนยันจะดำเนินคดีกับ พ.ต.ท.บัญชา ฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ มีการเล่นการพนัน และยักยอกทรัพย์ และจะไม่ยอมความอย่างเด็ดขาด 'ผมได้รับข้อมูลมาด้วยว่า พ.ต.ท.บัญชา มีพฤติกรรมดังกล่าวจากหลาย ๆ บ่อน ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด เช่นที่ จ.นครนายก โบนันซ่า เขาใหญ่ พอเล่นได้ก็รับเงินทันที แต่พอเสียก็จะแสดงตัวเป็นตำรวจกองปราบฯทุกครั้ง แล้วไม่จ่ายเงินหน้าตาเฉยจนหลายบ่อนต้องติดรูปประกาศห้ามเข้า ผมอยากถามว่าการไปสืบราชการของตำรวจกองปราบฯ ในสนามชนไก่มีพฤติกรรมอย่างที่กล่าวมาอย่างนั้นหรือ หรือว่าจริง ๆ แล้วไปในนามส่วนตัวเพื่อเล่นพนัน แต่พอจะแพ้แล้วโวยวาย การจะไปจับบ่อนไก่ที่มีคนเล่น 2-3 พันคน ต้องมีกำลังตำรวจไปเป็นทีม แต่ พ.ต.ท. บัญชาไปคนเดียว จะไปจับใครได้ มันสมเหตุสมผลแล้วหรือ' นายการุณตั้งข้อสังเกต 
 
ขณะที่นายเมฆินทร์ เมธาวิกุล ผวจ. ปทุมธานี กล่าวว่าสนามชนไก่ดังกล่าวเป็นสนามที่เปิดถูกต้องตามกฎหมาย

อนุญาตให้ชนไก่ได้ มีมานานแล้วก่อนที่ตนจะเข้ามารับตำแหน่ง โดยได้รับอนุญาตจากนายอำเภอ ให้เล่นได้ในวันที่ 1 และวันที่ 26 ของทุกเดือน เพื่อจัดให้มีการ ละเล่นการพนันชนไก่ในกรณีพิเศษ ตาม พ.ร.บ. การพนัน พ.ศ. 2478 โดยการอนุญาตนี้เป็นการพนันอยู่ในประเภท ข. ซึ่งได้มอบหมายให้นายเฉลิมพล รัตนวงศ์ รอง ผวจ.ปทุมธานี ปฏิบัติราชการแทน ผวจ. ซึ่งวันที่เกิดเหตุเป็นวันที่ได้รับอนุญาตให้เล่นการพนันชนไก่ได้ ซึ่ง จ.ปทุมธานี มีสนามชนไก่อยู่อำเภอละ 1 สนาม
 
ส่วน พล.ต.ต.ประพันธ์ พานิคม ผบก. ภ.จว.ปทุมธานี กล่าวว่า

ทางด้านความคืบหน้าของคดีนั้น ทันทีที่นายการุณ โหสกุล ส.ก.เขตดอนเมือง ทำร้ายร่างกาย พ.ต.ท.บัญชา คล้ายน้อย รอง ผกก. 2 บก.ป. ภายในสำนักงาน ต่อหน้าเจ้าหน้าที่ ก็ถูกจับกุมมาดำเนินคดีทันทีใน ข้อหาทำร้ายเจ้าหน้าที่ โดยนายการุณได้ใช้ตำแหน่งของสมาชิกสภาเทศบาลลำลูกกาคนหนึ่งประกันตัวไป ในชั้นต่อไปก็คงจะต้องไปสู้คดีกันในศาล โดยทางตนเองก็จะให้ความเป็นธรรมกับทั้ง 2 ฝ่าย.