นายบวรเวท รุ่งรุจี ผู้ช่วยโฆษกคณะกรรมาธิการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านกีฬา ศิลปะ วัฒนธรรม การศาสนา คุณธรรม และจริยธรรม สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) กล่าวว่า ที่ประชุม กมธ.ได้เห็นชอบรายงานเรื่องการพัฒนาระบบการบริหารทรัพย์สินของวัดให้เป็นไปตามมาตรฐานตามข้อเสนอของคณะอนุกรรมาธิการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านวัฒนธรรม เพื่อบริหารจัดการทรัพย์สินของวัดให้ถูกต้องตามกฎหมาย โปร่งใส และตรวจสอบได้
โดยมีข้อเสนอให้วัดจัดทำบัญชีทรัพย์สินตามเกณฑ์มาตรฐาน ครอบคลุมทรัพย์สินของวัดทั้งหมด ตลอดจนโบราณสถาน โบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ ศาสนวัตถุ โดยให้มหาเถรสมาคม (มส.) หรือสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) กำหนดหลักเกณฑ์ และแนวปฏิบัติเกี่ยวกับวิธีการบริหารจัดทรัพย์สินของวัดทั่วประเทศ 37,000 แห่งทั่วประเทศ และรูปแบบวิธีการจัดทำบัญชีทรัพย์สินของวัดที่เป็นอสังหาริมทรัพย์และสังหาริมทรัพย์ ตลอดจนติดตามตรวจสอบการจัดทำบัญชีทรัพย์สินของวัด และรายงานผลการตรวจสอบ
ทั้งนี้ ให้ พศ.นำเสนอ มส.ปรับปรุงแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้อง อาทิ พ.ร.บ.สงฆ์ พ.ศ.2505 และกฎกระทรวงปี 2511 กฎมหาเถรสมาคม ระเบียบ คำสั่งต่างๆ ให้ทันสมัย บังคับใช้ได้จริง อาทิ การกำหนดให้ พศ.มีอำนาจหน้าที่ตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินวัด และรายงานผลการตรวจสอบให้ มส. , นายกรัฐมนตรี และสาธารณชน รับทราบ หากการตรวจสอบพบว่ามีความไม่โปร่งใส ให้ดำเนินการตามกฎหมายได้ จากเดิมที่เพียงให้วัดแค่ส่งบัญชีทรัพย์สินมาให้สำนัก พศ.เก็บไว้เท่านั้น แต่ไม่เคยตรวจสอบ และไม่เคยมีบทลงโทษในเรื่องดังกล่าว
นายบวรเวท กล่าวว่า จะนำข้อเสนอของ กมธ.ไปเสนอต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) และ พศ.เพื่อไปดำเนินการต่อไป ทั้งนี้ จากการตรวจสอบรายได้วัดทั่วประเทศเป็นกลุ่มๆ เพื่อให้ง่ายต่อการตรวจสอบ พบว่า มี 92 วัด มีรายได้ต่อเดือนไม่ต่ำกว่า 20 - 30 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม ยังกังวลว่าจะได้รับความร่วมมือจากวัดในการตรวจสอบทรัพย์สินหรือไม่ เพราะยังไม่ได้หารือกับวัดถึงหลักเกณฑ์เหล่านี้ เพียงแต่เชิญฝ่ายที่เกี่ยวข้องมาให้ข้อมูลความเห็นเท่านั้น