กยศ. เตรียมประสานข้อมูลกับนายจ้างในหน่วยงานราชการ-เอกชน ทำเรื่องหักบัญชีเงินเดือนของลูกหนี้ สตาร์ท 26 กรกฎาคมนี้
วันที่ 11 มิถุนายน 2560 มีรายงานว่า หลังคณะรัฐมนตรีเห็นชอบในหลักการ พ.ร.บ.กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา พ.ศ. 2560 เพื่อรวบกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา หรือ กยศ. กับกองทุนเงินให้กู้ยืมที่ผูกกับรายได้ในอนาคต หรือ กรอ. เข้าด้วยกัน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพนั้น
นายปรเมศวร์ สังข์เอี่ยม ผู้อำนวยการฝ่ายคดีและบังคับคดี กยศ. เปิดเผยว่า กฎหมายฉบับใหม่ มีผลบังคับใช้วันที่ 26 กรกฎาคมนี้ โดยกฎหมายได้ระบุให้นายจ้าง สามารถหักเงินจากรายได้ของลูกจ้างที่เป็นลูกหนี้ในกองทุน กยศ. เช่นเดียวกับการหักภาษีของกรมสรรพากรในแต่ละเดือน โดยขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบและรวบรวมข้อมูลของลูกหนี้ กยศ. ที่มีอยู่ทั้งหมด 4 ล้าน 8 แสนคน และประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องราชการและบริษัทเอกชน เช่น กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ กรมสรรพากร เพื่อดูข้อมูลที่อยู่ สถานที่ทำงาน รายได้ เพื่อทำเรื่องหักบัญชีเงินเดือนของลูกจ้าง นำส่งคืนกองทุน กยศ.
นายปรเมศวร์ กล่าวต่อด้วยว่า ในเบื้องต้นจะเริ่มหักรายได้ลูกหนี้ กยศ. ที่เป็นข้าราชการก่อน ซึ่งมีประมาณ 100-200 หน่วยงาน โดยมีข้าราชการที่เป็นลูกหนี้ กยศ. และค้างชำระหนี้ ทั้งสิ้น 2 แสนราย มูลหนี้ 8 หมื่นล้านบาท
จากนั้นจะทยอยประสานบริษัทเอกชน เพื่อหักรายได้ของลูกจ้าง ทั้งนี้มั่นใจว่าจะช่วยลดยอดหนี้ค้างชำระได้ที่มีอยู่ ร้อยละ 53 ของจำนวนลูกหนี้ค้างชำระทั้งหมด 1 ล้าน 9 แสนราย มูลหนี้ 62,000 ล้านบาท
ส่วนแนวทางการดึงลูกหนี้ กยศ. เข้าสู่ระบบเครดิตบูโร อยู่ระหว่างจัดทำข้อมูลให้ถูกต้องที่สุด คาดว่าจะเริ่มดึงลูกหนี้ กยศ. เข้าสู่เครดิตบูโรได้ในปี 2563 จากเดิมปี 2561 นายปรเมศวร์ กล่าวทิ้งท้าย