เมื่อวันที่ 11 มิ.ย. 60 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังมีการแห่แชร์คลิปภาพที่มีชายคนร้ายได้บุกเข้าไปงัดบ้านของนางสาวเยาวลักษณ์ สายันหะ จ.ราชบุรี จากภาพจะเป็นชายอายุประมาณ 30 ปีขึ้นไป สวมเสื้อยืดสีน้ำเงิน กางเกงขาสั้นสีดำ สวมรองเท้าแตะ ไว้ผมลองทรง มีลอยสักที่แขนทั้งสองข้าง และไว้เครา บุกปีนเข้าไปทางรั้วหน้าบ้านในเวลาประมาณ 11.00 น.ของวันที่ 8 มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยเข้าไปที่บริเวณหน้าทางข้างบ้านและไปหยิบชะแลงที่อยู่ตรงบริเวณใกล้เคียงและพยายามใช้ชะแลงงัดที่บานหน้าต่างซึ่งเป็นเหล็กดัดจนพังและปีนขึ้นไปที่หน้าต่างและใช้เท้าถีบยันเหล็กดัดจนหลุดเข้าไปข้างใน ซึ่งใช้เวลาประมาณ 2 นาที โจรแสบได้เข้าไปรื้อค้นกวาดทรัพย์สินภายในบ้าน โดยทรัพย์สินที่หายไปประกอบด้วย สร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท 1 เส้น แหวนทองคำหนัก 1 สลึง จำนวน 2 วง เงินสดจำนวน 7,000 บาท เงินเหรียญอีกจำนวน 2,000 บาท และพระหลวงพ่อรอดเลี่ยมทองอีก 1 องค์ คนร้ายได้นำทรัพย์สินมีค่าทั้งหมดใส่ในกระเป๋าสะพายสีน้ำเงิน และหนีออกมาจากทางช่องหน้าต่างที่ทำการงัดเข้ามา จากนั้นได้หนีกลับออกไปจากทางเดิมที่รั้วบ้านโดยที่ทำตัวเหมือนมีพิรุธแต่อย่างไร ทำให้ชาวบ้านที่ขี่รถผ่านมาไม่ทันเอะใจอะไรและวิ่งรถผ่านไปตามที่ปรากฏในคลิปภาพจากกล้องวงจรปิด
ภายหลังที่คลิปพฤติกรรมของคนร้ายได้ถูกนำเสนอผ่านสื่อต่างๆและมีการแชร์ต่อๆกันผ่านซื้อโซลเชียลจนมีประชาชนและพลเมืองดีได้ส่งเบาะแสของคนร้ายรายนี้ ถึงรูปใบหน้า รายสักที่แขน และเสื้อผ้า ว่าตรงกับชายที่ปรากฏบน Facebook ที่ชื่อ คำเอ๋อ ไฟกระจาย หรือ คำเอ๋อ นักมวยไทย ซึ่งเป็นเบาะแสะที่ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบทราบว่ามีรูปลักษณ์แบะผู้เสียหายพร้อมด้วยพยานชี้ตัวว่าตรงกันกับชายคนร้ายที่เข้ามาก่อเหตุ และในเวลาเดียวกันมีประชาชนได้ส่งข้อมูลมาว่าพบชายต้องสงสัยคนดังกล่าวมาพักอยู่ที่ภายในโรงแรมอยุธยาธานี ตำบลหัวรอ อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พนักงานสอบสวน สภ.บางแพ จึงได้ประสานเจ้าพนักงานตำรวจฝ่ายสืบสวน ภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ให้ช่วยเข้าจับกุมได้เป็นผลสำเร็จเมื่อเวลาประมาณ 02.00 น. ของวันที่ 11 มิ.ย. ที่ผ่านมาและนำตัวส่งมอบยังสถานีตำรวจภูธรบางแพเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
เมื่อเช้าวันนี้เวลา 10.00 น. ร.ต.อ.สุทธิพงษ์ สุวรรณโณ รอง สว.(สอบสวน) สภ.บางแพ ได้นำตัวผู้ต้องหาเข้าสอบปากคำ โดยได้นำหมายจับพร้อมด้วยรูปภาพที่ปรากฏในกล้องวงจรปิด แจ้งข้อกล่าวหากับนาย คำเอ๋อ สัญชาติ ลาว ซึ่งเป็นบุคคลตามหมายจับ ศาลจังหวัดราชบุรี ที่ จ.227/2560 ข้อหา บุกรุกเคหสถานของผู้อื่นฯ ลักทรัพย์ในเคหสถานโดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นฯ อีกทั้งยังไม่พบเอกสารประจำตัวใดๆ และได้เชิญนางสาวเยาวลักษณ์ สายันหะ ผู้เสียหายมาร่วมสอบปากคำด้วย ซึ่งการสอบปากคำเป็นไปด้วยความยากลำบากเนื่องจากนายคำเอ๋อ มีลักษณะเหมือนคนเป็นใบ้ เนื่องจากลิ้นไก่สั้นทำให้พูดไม่ได้แต่สามารถออกเสียงได้เป็นบางคำแต่ก็ยากลำบากต่อการสื่อสาร แม้จะนำล่ามภาษามือมาช่วยด้วยแล้วแต่ก็ไม่เป็นผลเพราะนายคำเอ๋อไม่เคยเรียนฝึกพูดด้วยภาษามือมาก่อน
เบื้องต้นนายคำเอ๋อ ให้การรับสารภาพทุกข้อกล่าวหา โดยวันเกิดเหตุตนได้เข้าไปก่อเหตุในบ้านหลังของนางสาวเยาวลักษณ์ จริงและกวดนำทรัพย์สินไปตามจำนวนที่แจ้งจริง ซึ่งในวันดังกล่าวหลังจากก่อเหตุเสร็จได้ว่าจ้างรถจักรยานยนต์ไปส่งที่อำเภอบ้านโป่ง จากนั้นได้นั่งรถต่อไปที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยาเพื่อไปหาเพื่อและได้ทำการเปิดห้องพักที่โรงแรมอยุธยาธานี ตำบลหัวรอ อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จากนั้นให้เพื่อนำทองและของมีค่าไปขายเพื่อที่จะได้นำเงินมาแบ่งกันแต่ตนเองกลับถูกเพื่อนโกงและยังขู่ทำร้ายด้วยอาวุธปืนและไม่ให้เงินกับนายคำเอ๋อใช้และหลบหนีไปจนตัวเองได้มาถูกจับกุมในที่สุด ซึ่งก่อนหน้านี้ตนเองและพวกก็ได้ก่อเหตุในลักษณะนี้มาแล้วหลายครั้ง และเมื่อได้ทรัพย์สินมีค่าก็จะนำไปขายและนำเงินมาแบ่งกัน
ด้าน ร.ต.อ.สุทธิพงษ์ สุวรรณโณ รอง สว.(สอบสวน) สภ.บางแพ กล่าวว่า หลังจากที่ตำรวจสามารถจับกุมผู้ต้องหารายนี้ได้และทำการสอบสวนเป็นไปอย่างยากลำบาก แต่ก็ใช้ผู้เชี่ยวชาญหลายคนเข้ามาร่วมช่วยแปล จนสามารถสอบปากคำได้ทั้งหมด โดยที่ผู้ต้องหายอมรับสารภาพว่าเป็นตนเองจริงและก่อเหตุจริง และจากการตรวจสอบประวัติพบว่านายคำเอ๋อ มีหมายจับค้างอยู่อีก 5 หมาย และเป็นหมายจับคดีลักษณะเดียวกันคือการลักทรัพย์ ที่จังหวัดนครปฐม กาญจนบุรี ฉะเชิงเทรา โคราช และที่เกาะเสม็ด เนื่องจากนายคำเอ๋ออยู่ไปเป็นหลักแหล่ง หลังจากก่อเหตุจังหวัดนั้นแล้วก็จะย้ายไปอีกจังหวัด ย้ายไปเลื่อย ทรัพย์ที่ได้มาก็เอาไปขายเอาเงินมาแบ่งใช้กัน ทั้งนี้ต้องยอมรับว่าปัจจุบันกล้องวงจรปิดนี้สามารถช่วยเจ้าหน้าที่ในการจับตัวคนร้ายได้อย่างรวดเร็ว
ขณะที่นางสาวเยาวลักษณ์ สายันหะ ผู้เสียหาย กล่าวว่า ตนเองรู้สึกตื่นเต้นและดีใจที่สามารถจับตัวคนร้ายรายนี้มาดำเนินคดีจนเป็นผลสำเร็จ และต้องขอบคุณสื่อมวลชนที่ช่วยกันนำเสนอข่าว โดยเฉพาะสื่อโชลเชียล ที่ช่วยกันชี้เบาะแสะจนนำไปจับกุม แม้ตัวเองจะไม่ได้เล่นโซเชียลใดๆ แต่ก็รู้สึกขอบคุณทุกท่านจริงๆ อย่างไรก็ดีสำหรับผู้ที่สงสัยว่าผู้ต้องหารายนี้เคยไปก่อเหตุในบ้านของตนเองสามารถติดต่อเข้ามาดูตัวผู้ต้องหาได้ที่ สภ.บางแพ จังหวัดราชบุรี