รายงานจาก จ.อุดรธานี ว่า นายชยาวุธ จันทร ผู้ว่าราชการ จ.อุดรธานี แจ้งว่าได้มอบหมายให้ น.ส.วนิดา จารีย์ จัดหางาน จ.อุดรธานี ตรวจสอบกรณีสื่อสังคมออนไลน์ ว่ามีนักท่องเที่ยวสาวไทยชาวอุดรธานี 2 คน หนีกรุ๊ปทัวร์เที่ยวประเทศเกาหลี ไกด์นำเที่ยววิงวอนให้รีบกลับไทย ก่อนครบกำหนดเข้าเมือง 90 วัน ไม่เช่นนั้นไกด์จะถูกเพิกถอนใบอนุญาต ด้วยไม่ทราบลึกตื้นหนาบาง ว่าทั้งสองท่านหลงทางหรือว่าตั้งใจไปทำงาน จะได้แก้ไขปัญหาได้ทันท่วงที
ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี ได้รับรายงานว่า ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง ตามทะเบียนบ้านที่ตรวจสอบได้จากพาสปอร์ตของทั้ง 2 รายแรก น.ส.ยุพิณ จันทะแสน ราษฎร ม.15 บ.เชียงพัฒนา ต.บ้านเชียง อ.หนองหาน จ.อุดรธานี พบกับพ่อแม่ของ น.ส.ยุพิณ ระบุว่า ลูกสาวทำงานเป็นจ้างร้านขายยาในเมืองอุดรธานี รับแจ้งจากลูกสาวว่าจะเดินทางไปเที่ยวประเทศเกาหลี และเดินทางไปเมื่อวันที่ 5 มิถุนายนที่ผ่านมา โดยยังไม่ได้รับแจ้งว่าลูกสาวหายไปจากคณะทัวร์
รายที่สอง น.ส.ชุติมา เรืองภัทรเวช เลขที่ 299/305 บ.ท่าตูม ม.5 ต.หมูม่น อ.เมือง อุดรธานี อดีตลูกจ้างสำนักพื้นที่อนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ที่ 10 อุดรธานี บ้านพักถูกปิดไม่มีใครอยู่ สอบถามเพื่อนบ้านบอกว่า น.ส.ชุติมาฯ เดินทางไปท่องเที่ยวต่างประเทศ ไม่ทราบว่าเดินทางไปประเทศใด และล่าสุดรับแจ้งจากต้นสังกัดเดิมว่า ได้ลาออกจากที่ทำงานเมือวันที่ 1 มิ.ย.ที่ผ่านมา
น.ส.วนิดา จารีย์ จัดหางาน จ.อุดรธานี ตอบข้อซักถามว่า เจ้าหน้าที่ได้ไปพบตามความห่วงใยของ ผวจ.อุดรธานี เพื่อแจ้งให้ทราบถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และหากได้รับการติดต่อกลับมา ขอให้เดินทางกลับประเทศไทย ภายในระยะเวลากำหนด เพื่อจะมิได้ถูกจับดำเนินคดีตามกฎหมายคนเข้าเมืองของประเทศเกาหลีใต้ หากประสบปัญหาให้แจ้งทางราชการด่วน
" ที่ผ่านมาจัดหางานจังหวัด ได้ประชาสัมพันธ์ไปทำงานเกาหลี เป็นการจัดส่งไปแบบรัฐต่อรัฐ ต้องมาสมัครทดสอบภาษา เพื่อขึ้นบัญชีรอนายจ้างเลือก ส่วนใหญ่จะเป็นแรงงานชาย ทำการเกษตร และก่อสร้าง และหากลักลอบเข้าไปทำงาน จะมีความผิดรับโทษใดบ้าง และที่ผ่านมาก็จะรับแจ้ง ว่ามีชาวอุดรธานีถูกปฏิเสธเข้าเกาหลี ก็จะจัดส่งเจ้าหน้าที่ไปพบ ทำความเข้าใจการลักลอบทำงาน แต่ส่วนใหญ่จะไม่พบบุคคลที่ระบุมา "