กรณีโลกออนไลน์ได้มีการเผยแพร่คลิปวีดีโอความยาว 1 นาที 52 วินาที พร้อมข้อความระบุว่า "#เหตุบีบแตรใส่กัน หนุ่มขับอูเบอร์ถอดเสื้อท้าชกคนขับแท็กซี่!!ชลบุรี" ซึ่งเป็นภาพเหตุการณ์โชว์เฟอร์รถแท็กซี่รับจ้างสาธารณะในเมืองพัทยา ทราบชื่อต่อมาคือนายสมเกียรติ ภู่สุวรรณ อายุ 42 ปี อาชีพขับรถแท็กซี่ สีน้ำเงิน-เหลือง ทะเบียน ทข-537 ชลบุรี สังกัดสหกรณ์แท็กซี่พัฒนาบ่อทอง จำกัด กำลังมีปากเสียงกับชายไทยอายุประมาณ 30 ปี ที่ถูกหาว่าเป็นคนขับรถรับจ้างสังกัดอูเบอร์ อย่างรุนแรงต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร สภ.เมืองพัทยา ถึงขั้นมีการถอดเสื้อท้าต่อยกันกลางถนน ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดเมื่อเวลา 20.30 น. วันที่ 8 มิ.ย.60 นายพีรพัฒน์ กิจสำเร็จ อายุ 27 ปี คนขับรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อซูซูกิ สีฟ้า ทะเบียน 5กบ-6925 กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นชายในคลิปที่ถอดเสื้อแล้วรับคำท้าของคนขับรถแท็กซี่ให้มาต่อยกันแบบตัวต่อตัว ได้เดินทางเข้าพบ ร.ต.อ.วีรยุทธ กางสะละ รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองพัทยา เพื่อแจ้งความเอาผิดกับผู้ที่นำคลิปวีดีโอเหตุการณ์ดังกล่าวไปเผยแพร่ในอินเตอร์เน็ต ทำให้ได้รับความเสียหาย ตาม พรบ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ.2560
นายพีรพัฒน์ ให้การว่า เมื่อเวลาประมาณ 20.30 น.วานนี้ (7 มิ.ย.) ขณะที่ตนเองขับรถไปตามถนนพัทยาสาย 2 ย่านพัทยากลาง เพื่อหาข้าวรับประทาน กระทั่งมาถึงบริเวณหน้าโรงแรมแกรนด์โซเล่ จู่ๆ นายสมเกียรติ ภู่สุวรรณ ที่ขับรถแท็กซี่สีน้ำเงิน-เหลือง ตามหลังมา ได้บีบแตรไล่ พร้อมกับขับรถมาประกบด้านข้าง ก่อนลดกระจกลงมาแล้วใช้มือชี้หน้าและตะโกนด่าทอ ตนเองจึงจอดรถข้างทางแล้วลงไปพูดคุยสอบถามถึงสาเหตุที่มาด่าตนทั้งๆ ที่ไม่เคยมีเรื่องกันมาก่อน แต่กลับถูกนายสมเกียรติ กล่าวหาว่าตนมีอาชีพขับรถอูเบอร์ ทั้งๆ ที่พยายามอธิบายแล้วว่ากำลังขับรถไปกินข้าว ไม่ได้ไปรับหรือแย่งผู้โดยสารตามที่เข้าใจ
นายพีรพัฒน์ ให้การอีกว่า ในเวลาต่อมานายสมเกียรติ โชว์เฟอร์แท็กซี่รายนี้ จึงวิทยุตามเพื่อนร่วมอาชีพขับรถเดินทางมาสมทบอีกประมาณ 4-5 คน เพื่อปิดล้อมรถของตน พร้อมกับแจ้ง ด.ต.ประภาส นาชัยนาค ผบ.หมู่งานจราจร สภ.เมืองพัทยา มาทำการจับกุม ตนพยายามชี้แจงว่าหากทำผิดจริงก็ควรจะถ่ายรูปส่งให้ตำรวจ ไม่ใช่ทำตัวเป็นอันธพาล มาขับรถปาดหน้าบีบแตรไล่ แล้วเรียกพรรคพวกมาล้อมรถแบบนี้ แต่ฝ่ายของนายสมเกียรติ ไม่ยอมท่าเดียวและจะให้ตำรวจจับกุมให้ได้ เลยเกิดมีปากเสียงโต้เถียงกันอย่างรุนแรง จนกระทั่งคนขับแท็กซี่ตะโกนท้าต่อย ด้วยความโมโหตนเลยถอดเสื้อออกแล้วเดินเข้าไปหาเพื่อรับคำท้า อย่างไรก็ตาม จากภาพในคลิปที่เห็นตนพูดเสียงดังและอารมณ์ร้อน ก็ถือว่ามีส่วนผิดและขอยอมรับ เนื่องจากจังหวะนั้นโมโหจนฟิวส์ขาด
"คลิปวิดีโอที่ทางคนขับแท็กซี่นำมาให้ตำรวจเพื่อใช้เป็นหลักฐานในการเอาผิด ซึ่งปรากฏภาพตนขับรถอูเบอร์ไปรับนักท่องเที่ยว ก็ยอมรับว่าคนในภาพคือตนเองจริง แต่คลิปนี้เป็นคลิปเก่าตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งปัจจุบันตนก็เลิกขับรถอูเบอร์ตั้งแต่นั้นมาหลังทราบข่าวว่าเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย" นายพีรพัฒน์ กล่าว.