เมื่อเวลา 13.30 น.วันที่ 2 มิถุนายน ที่ กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) นางวันเพ็ญ ธนธรรมสิริ อายุ 63 ปี พี่สาวของนายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง อายุ 50 ปี นักธุรกิจรับเหมาก่อสร้างรายใหญ่ ซึ่งเสียชีวิตอย่างมีเงื่อนงำ เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.ชาคริต สวัสดี รอง ผบก.ป.เพื่อติดตามความคืบหน้าคดีการโอนหุ้นของนายชูวงษ์ มูลค่ากว่า 300 ล้านบาท ที่พบความผิดปกติ เนื่องจากมีความเห็นแย้งกับพนักงานอัยการที่มีความเห็นสั่งไม่ฟ้องคดีนี้ซึ่งมี พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ และอดีต ส.ส.นครสวรรค์ , น.ส.กัญฐณา ศิวาธนพล อดีตพริตตี้คนสนิทนายชูวงษ์ , น.ส.อุรชา วชิรกุลฑล โบรกเกอร์คนสนิท พ.ต.ท.บรรยิน และ นางศรีธรา พรหมา มารดาของ น.ส.อุรชา ตกเป็นผู้ต้องหา และติดตามความคืบหน้าคดีการเสียชีวิตซึ่งญาติเชื่อว่าเป็นการฆาตกรรม แต่หลังจากร้องขอความเป็นธรรมหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง จนคดีผ่านมากว่า 2 ปีแล้ว คดีกลับยังไม่มีความคืบหน้ายังไม่มีการส่งฟ้องคดีในชั้นศาล
นางวันเพ็ญ กล่าวว่า เดินทางมาเพื่อติดตามความคืบหน้าคดีไม่ว่าจะเป็นในส่วนของคดีการโอนหุ้นที่พบความผิดปกติและคดีการเสียชีวิตอย่างมีเงื่อนงำของนายชูวงษ์ น้องชาย ขณะนี้สำนวนคดียังคงติดอยู่ที่ขั้นตอนของอัยการสูงสุด โดยในส่วนของคดีหุ้นนั้นเดิมทีนั้นพนักงานสอบสวนกองปราบฯได้รวบรวมพยานหลักฐานอย่างรอบคอบรัดกุม ก่อนจะมีความเห็นสั่งฟ้อง พ.ต.ท.บรรยิน กับพวกในข้อหาร่วมกันปลอมและใช้เอกสารสิทธิปลอม, ร่วมกันลักทรัพย์ และรับของโจร แต่ปรากฏว่าพนักงานอัยการ โดยอธิบดีอัยการฝ่ายคดีอาญากรุงเทพใต้ได้มีความเห็นสั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหา ก่อนที่ต่อมาสำนวนคดีดังกล่าวจะถูกส่งมายัง ผบ.ตร.เพื่อพิจารณาความเห็นว่ามีความเห็นตรงพนักงานอัยการหรือเห็นขัดแย้ง จนกระทั่งทาง ผบ.ตร. ได้มีความเห็นให้มีการสั่งฟ้องคดีดังกล่าว จึงทำให้สำนวนคดีดังกล่าวต้องส่งไปที่อัยการสูงสุดเป็นผู้พิจารณา ก่อนที่จะมีความเห็นว่าให้พนักงานสอบสวนกองปราบฯทำการสอบพยานหลักฐานเพิ่มเติมอีกครั้ง เช่นเดียวกับในส่วนของคดีฆาตกรรมที่ยังไม่มีการสั่งฟ้อง เนื่องจากขณะนี้อัยการก็ยังสั่งให้พนักงานสอบสวนกองปราบปรามทำการสอบสวนเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง ขณะนี้ยังไม่มีความคืบหน้าไปสู่กระบวนการของศาลด ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะทั้ง 2 คดีมีความเกี่ยวข้องและเชื่อมโยงกัน
นางวันเพ็ญ กล่าวอีกว่า ขณะนี้คดีดังกล่าวผ่านล่วงเลยเวลามานานกว่า 2 ปี แล้ว แต่จนถึงวันนี้คดีกลับไม่มีความคืบหน้าเท่าที่ควร และยังไม่มีสำนวนส่งไปถึงศาลจึงทำให้ยังไม่มีการสั่งฟ้งทั้ง 2 คดี ที่ผ่านมาตนก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่า ผู้ต้องหาเองก็เคยเป็นอดีตเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเคยเป็นถึงอดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ย่อมรู้ข้อกฎหมายดี แต่กลับไม่ไว้ใจและไม่ยอมให้ข้อมูลใดๆในชั้นพนักงานสอบสวน แต่กลับไปร้องขอความเป็นธรรมในชั้นอัยการนั้นถือเป็นการประวิงเวลา ให้คดีขาดอายุความหรือไม่ ซึ่งในส่วนนี้เองตนก็ยอมรับว่าค่อนข้างเป็นกังวล เพราะไม่รู้ว่าคดีจะถูกเลื่อนออกไปเรื่อยๆจนถึงเมื่อใด และไม่รู้ว่าจะมีกรอบระยะเวลาจำกัดเกี่ยวกับคดีดังกล่าวหรือไม่เพราะเกรงว่าจะไม่ทันเวลา
นางวันเพ็ญ กล่าวอีกด้วยว่า นอกจากนี้ยังฝากไปถึงกระบวนการยุติธรรม ว่า อัยการทนายความของแผ่นดินขณะนี้ทำหน้าที่อะไรอยู่ ทำไมคดีผ่านไปกว่า2ปีถึงไม่ความคืบหน้า ทั้งที่ครอบครัวไม่เคยนิ่งนอนใจ และพยายามร้องขอความเป็นธรรม พร้อมติดตามความคืบหน้าจากหน่วยงานต่างๆอยู่ตลอด ซึ่งสำหรับกระบวนการตนนั้นทราบว่าสำนวนคดีการเสียชีวิตจะต้องถูกส่งไปให้กับอธิบดีอัยการกรุงเทพอาญา คนเดิม ที่เป็นผู้พิจารณาสั่งไม่ฟ้องคดีหุ้นของนายชูวงษ์ รวมถึงเป็นคนเดียวกับที่พิจารณาคดี ทายาทเครื่องดื่ม คดีดัง ที่ปล่อยให้ระยะเวลาของคดีเนิ่นนานอีกด้วย ทำให้ครอบครัวเกิดความกังวลใจว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม
ด้าน พ.ต.อ.ชาคริต สวัสดิ์ รอง ผบก.ป. กล่าวว่า หลังจากอัยการ ศาลจังหวัดพระโขนงสั่งให้พนักงานสอบสวนสอบเพิ่มเติม ทางพนักงานสอบสวนก็นำกลับมาสอบเพิ่มก่อนส่งสำนวนไปยังอัยการแล้ว โดย ขณะนี้สำนวนคดีทั้ง2นั้น อยู่ในชั้นอัยการพิจารณาหมดแล้ว โดยขอให้เวลาอัยการพิจารณา1-2 เดือน และยืนยันว่าประเทศไทยยังคงมีความยุติธรรมอยู่