สืบเนื่องจากกรณีที่ทางแฟนเพจเฟสบุ๊ค "สำนักข่าวเจริญพวง " ได้เปิดเผยภาพที่กล่าวอ้างว่าเป็นกุฏิพระสงฆ์ แห่งหนึ่งในอำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่ โดยได้มีการปิดบังชื่อวัดนั้นไว้ ซึ่งจากภาพจะเห็นได้ว่ากุฏิพระ มีลักษณะสวยหรูหรา คล้ายกับรีสอร์ทที่พักระดับ5 ดาว ข้าวของเครื่องใช้ต่างๆดูมีราคาสูง อีกทั้งยังปรากฏภาพรถยนต์จอดอยู่ด้วย
และหากสังเกตอย่างดี โดยเฉพาะภาพโต๊ะกินข้าว ที่มีโทรทัศน์ติดอยู่บริเวณผนังด้านข้าง ซึ่งกำลังเปิดอยู่ปรากฏสัญลักษณ์ของช่อง DMC ซี่งเป็นช่องของวัดพระธรรมกาย ที่ใช้ไปช่องทางเผยแพร่ข่าวๆสารต่างๆให้กับบรรดา ผู้คลั่งไคล้ ซึ่งในโลกออนไลน์ต่างพากันแสดงความคิดเห็นทำนองที่ว่า ไม่แปลกใจเลย ว่าทำไมวัดดังกล่าว ถึงได้ดูร่ำรวยขนาดนี้
ทั้งนี้จากการตรวจสอบข้อมูลของวัดที่ตั้งอยู่ในอำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่ พบว่า เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ที่ผ่าน พระเทพมังคลาจารย์ กิตติโสภณ รองเจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่ ในฐานะเจ้าอาวาสวัดท่าตอน อ.แม่อาย พร้อมด้วยกลุ่มพระสงฆ์ประมาณ 300 รูป และประชาชนประมาณ 50 คน ในนามศูนย์พิทักษ์พระพุทธศาสนาจังหวัดเชียงใหม่ ได้เข้ายื่นหนังสือขอบิณฑบาต ให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ยกเลิกการใช้มาตรา 44 กับวัดพระธรรมกาย ซึ่งการประกาศใช้มาตรา 44 มีผลให้เกิดเหตุปะทะกับผู้บริสุทธิ์ และเกิดการวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง ส่งผลกระทบต่อจิตใจของชาวพุทธ และภาพลักษณ์การใช้ความรุนแรงของกองทัพต่อพุทธบริษัท
จากนั้นเมื่อ14 มีนาคม มีรายงานว่าทางเจ้าหน้าที่ DSI ภาคเหนือ ได้มีการ เตรียมข้อมูล และเป้าหมายสาขาธรรมกายของเชียงใหม่ไว้พร้อมแล้ว ตอนนี้รอคำสั่งจากดีเอสไอ ส่วนกลางสั่งการให้ดำเนินการเข้าตรวจสอบอย่างเดียว ได้ประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งทหาร ตำรวจภาค 5 ทันที ตอนนี้ทางส่วนกลางกำลังดำเนินการตรวจสอบหาตัวธัมมชโย
สำหรับจุดเป้าหมายสาขาธรรมกาย และบ้านของศิษย์ระดับแกนนำ และหารายได้ในส่วนของเชียงใหม่นั้น มีดังต่อไปนี้ วัดกิ่วลม เป็นวัดสาขาของวัดพระธรรมกาย ธัมมชโยได้เคยมาบุกเบิกเมื่อ 24 ปีที่แล้ว จากวัดร้างมาเป็นวัดรุ่ง มาแล้วก็ชวนเด็กๆ ชาวเขามาศึกษาธรรมะเป็นประจำ ชื่อวัดกิ่วลม ต.บ่อหลวง อ.ฮอด จ. เชียงใหม่ นอกจากวัดกิ่วลมแล้ว เมื่อตรวจสอบวัดป่าสายธรรมยุต และวัดสาขาวัดธรรมกาย จำนวน 4 แห่ง ตั้งอยู่ในพื้นที่ อ.จอมทอง 1 แห่ง คือที่ ศูนย์ฝึกอบรมเยาวชน วัดโมคคัลลาน ต.สบเตี๊ยะ อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ สาขาของวัดพระธรรมกายที่เหลืออยู่ใน อ.ฮอด อีก ได้แก่ วัดพระธาตุกองลอย ม.4 ต.บ่อสลี อ.ฮอด วัดแม่ลายเตียงอาง ม.10 ต.บ่อหลวง อ.ฮอด และวัดบ้านขุน ม.3 ต.บ่อหลวง อ.ฮอด เชียงใหม่
ซึ่งก่อนหน้านั้น มี จนท.ที่เกี่ยวข้องได้เข้าทำการตรวจสอบ เรื่อง การบุกรุกพื้นที่ป่ามาแล้ว เมื่อกลางปี 59 และปลายปี 59 มาแล้ว และที่ อ.แม่อายเชียงใหม่ ก็มี ธุดงคสถานลุ่มน้ำฝาง เป็นศูนย์ประสานงานในการเผยแผ่วิชชาธรรมกาย, ศูนย์อบรมในโครงการต่างๆของวัดพระธรรมกาย ในเขตพื้นที่ อ.ฝาง, อ.แม่อายด้วย และที่วัดท่าตอน ก็มีมูลนิธิธรรมกาย เข้าแฝงตัวอยู่ในวัดท่าตอน อ.แม่อาย อีกด้วยเช่นกัน และที่ธุดงคสถานล้านนา อ.ส้นทราย จ.เชียงใหม่ ซึ่งสาขาวัดธรรมกาย ที่จัดกิจกรรมทุกปี ด้วยการปล่อยโคมไฟ จำนวน 3,000 ดวง ในวันคืนยี่เป็ง หรือลอยกระทงของเชียงใหม่ทุกปี มาตลอดจนเป็นจุดเด่นในเรื่องนี้ โดยพื้นที่ทั้งหมดของสาขาวัดธรรมกาย
ทางด้าน จนท.ตำรวจชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 5 ระดับนายตำรวจระดับสูงของภาค 5 ได้เปิดเผยว่า การสืบสวนติดตามหาตัวพระธัมมชโยนั้น ทางตำรวจภาค 5 ก็รอการประสานจาก DSI ก่อน ทางตำรวจภาค 5 มีความพร้อมอยู่แล้ว การสืบหาตัว พระธัมมชโย หากให้ได้ผลโดยเร็วนั้น น่าจะมีการตั้งค่าหัว หรือให้กับผู้ที่ชี้เบาะแส รับรองการข่าวจะมีประสิทธิภาพ ในการติดตามหาตัวเร็วขึ้นแน่ ก็แล้วแต่ ดีเอสไอ จากมีการตั้งรางวัลค่าหัวในการติดตามหรือไม่ แต่ถือว่า เป็นการดำเนินการที่ได้ประสิทธิภาพแน่นอน จะมีเบาะแสมากขึ้น