วันที่ 25 พ.ค. พ.ต.อ.ภูมิวิทย์ เวชกามา ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี ทำการสืบทราบมาว่า น.ส.กิตติยา มุสิกพันธ์ อายุ 30 ปี ชาวชุมชนบ้านคลองเจริญ ถ.โพศรี ต.หมากแข้ง อ.เมือง จ.อุดรธานี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลแขวงอุดรธานี ที่ 34/2560 ลงวันที่ 1 ก.พ. 60 ข้อหา "ฉ้อโกงทรัพย์" กำลังออกตระเวนต้มตุ๋นเหยื่อเพื่อหลอกลวงเอาทรัพย์โดยอ้างว่าสามารถจัดส่งหญิงสาวไปทำงานที่ประเทศเกาหลี อยู่บริเวณชุมชนพรหมประกาย ถ.พรหมประกาย ต.หมากแข้ง จึงได้สั่งการให้ พ.ต.ท.สิทธิพร ธารากุลทิพย์ รอง ผกก.สส.สภ.เมืองอุดรธานี พร้อมด้วย พ.ต.ต.อาทิตย์ จันทา สว.สส. นำกำลังจำนวนหนึ่งออกสืบสวนติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดี เนื่องจากสร้างความเสียหายไว้จำนวนหลายล้านบาท
จากนั้นเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัว น.ส.กิตติยา ไว้ได้ขณะเดินอยู่ริมถนนพรหมประกาย จึงควบคุมตัวไปสอบสวน เบื้องต้นรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ว่าเป็นบุคคลเดียวกันในหมายจับที่ตำรวจแสดงให้ดู จากนั้นจึงได้พาไปค้นห้องพัก ที่หอพัก ใน ซ.พรหมประกาย พบของกลางเป็นหลักฐานในการฉ้อโกงจำนวนมาก ประกอบด้วยเอกสารสำเนาประจำตัวของหญิงสาวผู้เสียหายจำนวนกว่า 20 ราย หนังสือเดินทาง 20 เล่ม โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง
ร.ต.ท.เวนิช ประเสริฐ เปิดเผยว่า เมื่อประมาณช่วงปี 2559 ที่ผ่านมามีผู้เสียหายเป็นหญิงสาวในพื้นที่จังหวัดอุดรธานี ได้เข้าแจ้งความกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าได้ถูก น.ส.กิตติยา มาตีสนิท จนหลงเชื่อว่าสามารถจัดส่งไปทำงานที่ประเทศเกาหลีได้ แต่ต้องจ่ายค่าจัดทำเอกสาร และค่าทำหนังสือเดินทาง ค่าตั๋วเครื่องบินเดินทาง และค่าใช้จ่ายอื่นๆอีกจำนวนหลายรายการ บางรายสูญเสียเงินไปจำนวนหลายหมื่นบาทถึง 1 แสนบาท แต่ไม่สามารถเดินทางไปทำงานที่ประเทศเกาหลีได้ กระทั่งเมื่อวันที่ 5 มี.ค. 2559 ได้มีผู้เสียหายทยอยเข้าแจ้งความ ที่ สภ.เมืองอุดรธานี เพื่อให้จับกุมตัว น.ส.กิตติยา มาดำเนินคดีในข้อหา "ฉ้อโกงทรัพย์" และเมื่อตรวจสอบหมายจับในท้องที่ๆทั่วจังหวัดอุดรธานี พบว่ามีหมายจับแล้ว 7 หมาย โดยผู้เสียหายส่วนใหญ่ถูกต้มตุ๋นในเรื่องเดียวกันคือไปทำงานประเทศเกาหลี
ด้านน.ส.กิตติยา ผู้ต้องหา ได้ให้การรับสารภาพว่า ได้รับเงินจากผู้เสียหายจริง แต่เป็นเงินค่าทำงานที่ตนเองควรจะได้ เนื่องจากมีเพื่อนรุ่นพี่ ที่เคยไปทำงานที่ประเทศเกาหลี เป็นคนชักชวนให้หาหญิงสาวให้ โดยจะได้ค่านายหน้ารายละ 5 พันบาทบ้าง หมื่นบาทบ้าง บางรายก็ได้ถึง 5 หมื่นบาทแต่ก็แบ่งกันหลายคน แต่เรื่องที่ผู้เสียหายไม่สามารถเดินทางไปได้นั้นตนไม่ทราบว่าเกิดจากปัญหาใด เพราะส่วนหนึ่งก็สามารถเดินทางไปทำงานได้ จากนั้นจึงคุมตัว น.ส.กิตติยา มุสิกพันธ์ ไว้ดำเนินคดีตามกฎหมายกันต่อ