ความคืบหน้ากรณีนายสุรศักดิ์ หรือ อาท คันทมาตร์ และ นายสุรชัย หรือ ต้อม ภูมิภาค สองผู้ต้องหาคดีมียาบ้าไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่าย ซึ่งพากันหลบหนีจากห้องขัง สภ.โพนทอง หลังจากด.ต.ฉลาด แน่นอุดร เปิดกุญแจประตูห้องขังให้สองผู้ต้องหาออกมาพบภรรยา ล่าสุดได้มีการขอศาลออกหมายจับทั้ง 4คน และด.ต.ฉลาด แน่นอุดร ถูกให้ออกจากราชการ
เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม พ.ต.ท. วิชัย ถไว สารวัตรสอบสวนคดีดังกลล่าว นำ ด.ต.ฉลาด แน่นอุดร ที่กลายเป็นผู้ต้องหา และ ด.ต.ปรีชา คำจุมจัง เวรประจำวัน และ ดต.คิมหันต์ สุนทรารัตน์ ผู้ช่วยร้อยเวรวันเกิดเหตุ ที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ ทำการจำลองแผน การเกิดเหตุการณ์ เริ่มต้นผู้ต้องหาชาย 2 คน ที่ออกจากห้องขัง วิ่งหลบหนีออกไปที่ถนนสายเข้าตัวอำเภอโพนทอง ซึ่ง ด.ต.ฉลาด แน่นอุดร ยืนยันประกอบสำนวนการสอบสวน ว่าตนเองและ ดต.ปรีชา คำจุมจัง เวรประจำวัน ได้วิ่งไล่ผู้ต้องขังทั้ง 2 คน ไป เพื่อจับกุมผู้หลบหนี เพื่อบันทึกภาพประกอบสำนวนการสอบสวน และเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจว่า ตนเองไม่ได้มีเจตนาตั้งใจปล่อยตัวผู้ต้องหาหลบหนี
ด.ต.ฉลาด กล่าวว่าตนเองเสียใจกับเรื่องที่โดนให้ออกจากตำรวจ เพราะความสงสารคน และยืนยัน ไม่มีได้มีผลประโยชน์ จากการถูกมองว่ามีการได้รับสินบนจากการปล่อยตัวผู้ต้องหา ยืนยันว่าบริสุทธิ์ใจ ไม่ได้รับเงินหรืออะไรจากหญิงสาว 2 คน โดยเด็ดขาด แต่ก็ยอมรับว่า คืนเกิดเหตุ หญิงสาวทั้ง 2 คน มาตอน 4 ทุ่ม เพื่อขอเยี่ยมผู้ต้องหาทั้ง 2 คน พร้อมกับซื้อกาแฟมากตน 1 แก้ว แต่ตนไม่อนุญาต ก็เลยกลับไป แต่มาอีกครั้งตอนตี 4 ตนก็ยอมรับว่าอาจจะใจอ่อน และก็เคลิ้มและคล้อยตาม แต่ไม่ทราบว่าทำไมถึงใจอ่อนจนถึงกับเปิดประตูให้เข้า จนนำไปสู่การหลบหนีไป แต่คิดว่ากาแฟแก้วนั้นก็น่าจะไม่ใช่ปัญหา ว่ามีการวางยา เพราะตนเอง กินกาแฟแล้วก็ไมได้หลับไป แต่ก็ยอมรับว่าตอนนั้นมีอาการเคลิ้มๆ ซึ่งก็คงเกิดจากการง่วงนอนมากกว่า
ด.ต.ฉลาด กล่าวอีกว่า วันนั้นตนและดต.ปรีชา คำจุมจัง วิ่งไล่จาก สภ.โพนทองไปประมาณ 100 เมตร ปรากฏว่าไล่ไม่ทัน จึงขอความช่วยเหลือยืมรถ จยย.ชาวบ้านที่เป็นแม่ค้าขี่ไล่ไปอีกประมาณ 50 เมตร จนเกือบจะทันผู้ต้องหา ปรากฏว่ามีรถเก๋งของพรรคพวกผู้หลบหนี ปาดหน้าเข้ามารับผู้ต้องหา ที่พยายามขึ้นรถหนีและเกาะประตูรถ ตรียมขึ้นรถหนี และตนตัดสินใจขี่จยย.พุ่งชนท้ายรถจนไปท้ายแตก และชนประตูรถพร้อมกับกอดเอว สุรชัย หรือ ต้อม ภูมิภาค ที่กำลังจะขึ้นรถและเกาะประตูรถ จนกระทั่งหลุดมือ ตนเองล้มลง และรถก็ลากผู้เต้องหาที่ยังขึ้นรถไม่ได้ไปด้วย และดต.ปรีชา คำจุมจัง ที่ไปด้วยก็วิ่งตามไปอีกเกือบ 100 เมตร แต่ไม่ทัน จนหลบหนีไปได้ในที่สุด จากนั้นพวกตนก็รีบกลับมาเนื่องจาก นึกได้ว่ายังมีผู้ต้องหาอยู่ในห้องขังเกรงว่าจะหลบหนี จึงรีบกลับมา และเมื่อกลับมา พบว่า ดต.คิมหันต์ สุนทรารัตน์ ผู้ช่วยร้อยเวรวันเกิดเหตุ ได้เข้าไปล๊อคกุญแจห้องขังไว้ก่อนแล้ว จึงทำให้ไม่มีผู้ต้องหารายอื่นหลบหนีไปด้วย
ด้านพ.ต.อ. พันธ์ศักดิ์ อุปพงศ์ ผกก.สภ.โพนทอง จ.ร้อยเอ็ด กล่าวว่า จากการติดตามจับกุมคนร้าย วันนี้ ได้เชิญตัวผู้เกี่ยวข้อง ที่เป็นญาติของผู้ต้องหาที่หลบหนีทั้ง 4 คน เพื่อขอความร่วมมือ ด้านการตรวจสอบส่งเจ่าหน้าที่ตำรวจทั้งชุดสืบสวน สอบสวน และนอกเครื่องแบบ ติดตามหาเบาะแสจ่ากรถยนต์ ซึ่งพบว่ามีภาพวงจรปิดว่าเติมน้ำมันที่ปั๊มแห่งหนึงในอำเภอโพนทอง จึงยังเชื่อมั่นว่ายังคงอยู่ในพื้นที่ ในขณะเดียวกันยังได้ฝากประชาสัมพันธ์ ขอความร่วมมือจากประชาชน ให้ช่วยเหลือแจ้งเบาะแส โดยให้รางวัล 10000 บาท หากสามารถชี้เบาะแส จนสามารถจับกุมคนร้ายได้ต่อไป โยแจ้งเบาะแสได้ทางโทรศัพท์ ที่ 043571491 หรือเบอร์ตรง พ.ต.อ. พันธ์ศักดิ์ อุปพงศ์ ผกก.สภ.โพนทอง จ.ร้อยเอ็ด 0895199541 ได้ตลอดเวลา