ทางด้านของนายวินัย สุดถนอม อายุ 37 ปี คนขับรถตู้เล่าว่า ตนเองได้รับผู้โดยสารมาจากท่ารถสายใต้เต็มคัน มีจุดหมายปลายทางอยู่ที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุได้มีหญิงสาวที่นั่งเบาะด้านหลังร้องกรี๊ดขึ้นมา และบอกว่าถูกจับหน้าอก ตนจึงรีบจอดรถแล้วก็ช่วยกันจับตัวคนก่อเหตุไว้ ซึ่งก็เป็นผู้โดยสารที่นั่งมาตรงเบาะด้านหลังคู่กับหญิงสาวผู้เสียหาย จากนั้นก็แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาควบคุมตัวไปดำเนินคดี
จากการสอบสวนทราบชื่อผู้ก่อเหตุ คือ นายศิโรจน์ สุทธาลักษ์ อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 59/1 ม.3 ต.บ้านใหม่ อ.พระนครศรีอยุธยา จ.อยุธยา โดยนายศิโรจน์ฯ ให้การว่า ตนเพิ่งปลดจากทหารมาไม่นาน และกำลังเดินทางไปหาญาติที่จังหวัดเพชรบุรี ระหว่างทางเกิดอารมณ์ทางเพศขึ้นมา ก็เลยเอามือไปจับหน้าอกสาวคนนั่งข้าง ซึ่งตนต้องกราบขอโทษด้วยเป็นเพราะอารมณ์ชั่ววูบแท้ๆ อีกทั้งยังประกอบกับฤทธิ์ของยาเสพติดที่เสพเข้าไปก่อนหน้านี้ 1 วัน จึงทำให้เกิดอารมณ์ทางเพศเมื่อนั่งใกล้ชิดกับผู้หญิง
ส่วนทางด้านของหญิงสาวผู้เสียหายคือ นางสาวดาว นามสมมติ อายุ 34 ปี เป็นชาวจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ บอกว่า ตนได้ขึ้นรถตู้โดยสารมาจากกรุงเทพฯ เพื่อจะกลับบ้านที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ระหว่างทางได้นั่งเบาะหลังคู่กับผู้ก่อเหตุ และขณะที่นั่งเพลินๆได้หันหน้าไปมองกระจกด้านข้าง ก็ถูกผู้ก่อเหตุเอามือเอื้อมมาจับที่บริเวณหน้าอก จากนั้นตนก็ได้สะบัดมือของชายคนดังกล่าวออก พร้อมกับร้องกรี๊ดและตะโกนบอกคนขับให้จอดเพื่อให้ช่วยกันจับคนก่อเหตุไว้
ทั้งนี้หลังจากที่ตำรวจได้สอบปากคำผู้ก่อเหตุแล้วนั้น ทางด้านของหญิงสาวผู้เสียหายก็ไม่ได้ติดใจที่จะแจ้งความดำเนินคดีเอาผิดแต่อย่างใด เพราะผู้ก่อเหตุได้ขอโทษแล้ว แต่ก็ขอให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีไปตามข้อกฎหมาย พร้อมกับขอให้นำตัวผู้ก่อเหตุไปทำการตรวจหาสารเสพติดในร่างกายด้วย เพื่อนำเข้าสู่กระบวนการบำบัดรักษาต่อไป และจะได้ไม่ไปก่อเหตุในลักษณะเช่นนี้อีก
เบื้องต้นทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งข้อกล่าวหาว่า กระทำอนาจารผู้อื่นบนรถโดยสารประจำทาง และนำตัวไปตรวจหาสารเสพติดในร่างกาย ก่อนจะควบคุมไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป