จากกรณีที่มีการเผยแพร่ผ่านโซเชียลมีเดียว่า นพ.ฐาปกรณ์ ทองเกื้อ แพทย์ประจำโรงพยาบาลลำปลายมาศ อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ ป่วยหนักแต่ยังต้องเข้าเวรดูแลผู้ป่วย จนตัวเองต้องเสียชีวิต เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคมที่ผ่านมา ซึ่งต่อมามีการเผยแพร่ผ่านโซเชียลมีเดียต่ออีกถึงสาเหตุที่นพ.ฐาปกรณ์ ต้องเข้าเวรทั้งๆ ที่ตัวเองก็ป่วยหนักเนื่องจากไม่ได้รับการอนุมัติคำขอไม่เข้าเวร (ออฟ เวร)
ล่าสุด เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ตนขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวของนพ.ฐาปกรณ์ สำหรับแพทย์ที่ทำหน้าที่อย่างเต็มที่การจากไปก็เป็นเรื่องที่น่าเสียดายทั้งของครอบครัว เพื่อนร่วมงาม และประชาชน ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น
ด้าน นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ข้อเท็จจริงจากการตรวจสอบเบื้องต้นไปยังผอ.โรงพยาบาลลำปลายมาศพบว่า นพ.ฐาปกรณ์ อาสาอยู่เวรเพราะคิดว่าร่างกายยังไหว ไม่ได้มีการขอแลกเวรตามที่มีการแชร์ในโซเชียลมีเดีย แต่หลังจากเข้าเวรแล้วรู้สึกวูบ เลยสั่งรักษาตัวเอง มีการให้น้ำเกลือและอาศัยเตียงว่างในห้องไอซียูนอน หลังให้น้ำเกลือแล้วมีอาการเหนื่อย หอบเลยมีการส่งต่อไปยังโรงพยาบาลบุรีรัมย์ก่อนจะเสียชีวิตในเวลาต่อมา ซึ่งสอดคล้องกับถ้อยแถลงของบิดาของนพ.ฐาปกรณ์ ซึ่งบอกว่านพ.ฐาปกรณ์อาสาอยู่เวรเพราะต้องการหาค่าใช้จ่ายเพื่อเรียนต่อเฉพาะทางด้านสูตินรีเวช และยังได้รับการปฏิบัติอย่างดีจากทางโรงพยาบาล
นพ.เกียรติภูมิ กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม ขอแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น นพ.ฐาปกรณ์เป็นคนที่ตั้งใจทำงาน แม้รู้สึกไม่สบายก็ยังนึกถึงคนไข้ เบื้องต้นได้สั่งการให้ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุขเข้าไปช่วยเหลือเบื้องต้นแก่ครอบครัวของนพ.ฐาปกรณ์ แล้ว