จากกรณีที่มีข่าวตลอดสัปดาห์เกี่ยวกับการจัดงานเทศกาลดนตรีเสม็ดอินเลิฟ 8 ซึ่งมีกำหนดจัดขึ้นในวันเสาร์ที่ 3 มิถุนายนี้ แต่มีเสียงต่อต้านถึงผลกระทบจากชาวบ้าน และผู้ประกอบการบนเกาะเสม็ด ร้องถึงหัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้าต้องเรียกผู้ประกอบการส่วนหนึ่งร่วมประชุม จนมีมติขอให้ยกเลิกงานที่กำลังจะเกิดขึ้น
ล่าสุด ตัวแทนผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวจ.ระยองและตัวแทนกลุ่มต่างๆในเกาะเสม็ด ประกอบด้วย ผู้แทนองค์การบริหารส่วนจังหวัดระยอง สภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจ.ระยอง สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจ.ระยอง ชมรมผู้ประกอบการร้านอาหารจ.ระยองสมาคมผู้ประกอบการท่องเที่ยวเกาะเสม็ด ตลอดจนสมาคมคนรักษ์เกาะเสม็ดที่แต่เดิมแสดงท่าทีคัดค้าน ได้เชิญผู้จัดงานเสม็ดอินเลิฟ เข้าร่วมประชุมเพื่อชี้แจงมาตราการในการจัดงานดังกล่าว ณ ห้องประชุมสำนักงานท่องเที่ยวและกีฬา จังหวัดระยอง
โดยหลังจากการประชุมที่ประชุมทุกฝ่ายมีมติสนับสนุนให้มีการจัดงานเสม็ดอินเลิฟ ชี้หากยกเลิกการจัดงานดังกล่าวจะเกิดผลเสียหายต่อภาคการท่องเที่ยวของจังหวัดระยองอย่างรุนแรง เนื่องจากงานดังกล่าวถือเป็นยุทธศาสตร์ด้านการท่องเที่ยวของระยอง ซึ่งจัดต่อเนื่องมายาวนานถึง 7 ปี แม้อาจจะมีปัญหาด้านการบริหารจัดการด้านต่างๆบ้าง แต่เป็นสิ่งที่ผู้จัดงาน และทุกภาคส่วน สามารถช่วยกันควบคุมดูแลได้
เพราะตลอดที่ผ่านมาการจัดงานทุกครั้งไม่ได้เพียงสร้างรายได้ให้แก่ผู้ประกอบการหรือชาวบ้านบนเกาะเสม็ด ผู้ประกอบการเรือโดยสาร ร้านอาหาร ชาวบ้านในพื้นที่ใกล้เคียงต่างได้รับผลดีจากงานดังกล่าว โดยประเมินว่ามีเงินหมุนเวียนจากกการจัดงานหนึ่งวันถึง 60 ล้านบาท และงานเทศกาลดังกล่าวยังถือเป็นงานเทศกาลระดับประเทศที่มีนักท่องเที่ยวจากทั่วประเทศ และต่างประเทศเดินทางมาในช่วงเวลาจัดงานดังกล่าว ซึ่งปกติถือเป็นช่วงโลว์ซีซั่นของเกาะเสม็ด
สำหรับประเด็นที่ว่าหัวหน้าอุทยานเขาแหลมหญ้ายืนกรานไม่ให้จัดงานดังกล่าว ที่ประชุมรับทราบจากข้อมูลว่า ผู้จัดงานได้ทำหนังสือขออนุญาตไปยังจังหวัดระยอง มทบ.14 และกรมอุทยานฯ ตามขั้นตอนปกติเหมือนทุกปีก่อนการเปิดจำหน่ายบัตร แต่การที่ไม่อนุญาตให้จัดงานก่อนงานเริ่มไม่นานถ้าไม่สามารถจัดได้จริงคงสร้างความวุ่นวายอย่างมาก เพราะที่พักบนเกาะเสม็ดถูกจองไปเกือบหมดแล้ว นักท่องเที่ยวหลายส่วนมีการวางแผนการเดินทางมาจากที่ต่างๆ ก็อยากขอให้มีการพิจารณาเรื่องดังกล่าวอีกครั้ง ประกอบกับทางกลุ่มได้มีการยื่นหนังสือขอความช่วยเหลือ พร้อม 130 รายชื่อผู้ประกอบการท่องเที่ยวระยอง ผ่านสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เพื่อนำเรียนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬาเพื่อให้ช่วยคลี่คลายเรื่องดังกล่าวโดยด่วน