อ้างแฟนนอกใจ ผัวโหดเปิดปากเหตุจ้วงแทง ไม่รู้ว่าตายหรือเปล่าเลยจับยัดกระโปรงรถ

หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวอื่นๆ อ้างแฟนนอกใจ ผัวโหดเปิดปากเหตุจ้วงแทง ไม่รู้ว่าตายหรือเปล่าเลยจับยัดกระโปรงรถ

เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 12 พ.ค.พ.ต.อ.ภูมินทร์ พุ่มพันธ์ม่วง. ผกก.5บกป.พ.ต.ท.พาริน จันทร์เลิศ พ.ต.ท.สุทธิชัย ไชยรัตน์ พ.ต.ท.วันพิชิต วัฒนศักดิ์มณฑา รอง ผกก.5 ยก.ป.พ.ต.ต.มนต์ชัย เพ็งเลิศ สว.กก.5 บก.ป.ร่วมกันจับกุมนายณรงค์ หรือโทน อินทร์ทอง อายุ 40 ปี ได้ที่อาคารร่มเกล้า แขวงคลองสนต้นนุ่น เขตลาดกระบัง ตามหมายจับศาลจ.สุราษฎร์ธานี ที่116/2560 ข้อหาพยายามฆ่าผู้อื่น

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 7 พ.ค.ที่ผ่านมา ผู้ต้องหาได้ก่อเหตุทำร้ายร่างกายน.ส.สุนันทา ภิรมย์ อายุ 38 ปี อดีตแฟนสาวจนบาดเจ็บสาหัส โดยใช้มีดแทงเข้าทีบริเวณด้านหลัง 2 แผล และที่บริเวณท้ยทอยอีก 1 แผล หลังจากนั้นยังนำร่างที่ไร้สติจับยัดใส่กระโปงท้ายรถเก๋งมาสด้า 2 สีขาว ทะเบียน กท-6924 นครศรีธรรมราช เหตุเกิดขึ้นภานในซอยหน้าด่าน หลังวัดใหม่พัฒนาราม เขตเทศบาลสุราษฎร์ธานี หลังเกิดเหตุมีพลเมืองดีได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือจากคนเจ็บ จึงรีบช่วยกันงัดกระโปรงหลังรถยนค์คันดังกล่าวออกมา และนำส่งโรงพยาบาลได้ในที่สุด

ส่วนตัวผู้ต้องหาหลังเกิดเหตุได้หลบหนีคดีมาอยู่กับญาติที่ย่านเคหะร่มเกล้า ก่อนจับกุมตัวได้ดังกล่าว เบื้องต้นจากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าที่ทำลงไปเพราะความหึงหวง เนื่องจากว่าไปขอคืนดีกับแฟนสาวแล้วกลับถูกปฎิเสธ เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อกล่าวหา ก่อนส่งตัวให้สภ.เมืองสุราษฎร์ธานีดำเนินคดีต่อไป

จากนั้นตำรวจกองปราบแถลงจับกุมนายณรงค์ หรือโทน โดยนายนายณรงค์ให้การว่า "เรื่องทั้งหมดเปิดขึ้นเพราะความหึงหวง ผมทำไปเพราะบันดาลโทสะ ความจริงแล้วผมกับแฟนสาวอยู่กันมา 20 ปี มีลูก 3 คน ผมเลี้ยงลูกทั้ง 3 คนคนเดียว กระทั่งแยกกันอยู่มา 2 เดือนแล้วครับ แฟนไปทำงานที่สุราษฎร์ครับ ผมทำงานที่นครศรีฯ

ก่อนเกิดเหตุ ผมกับแฟนสาวอยู่ด้วยกันที่โรงแรมเป็นเวลา 3 วัน แล้วเกิดทะเลาะกัน เพราะรู้ว่าแฟนมีคนใหม่ ตอนนั้นทะเลาะกันรุนแรง เลยเอามีดแทงแฟนสาว ตอนนั้นไรู้ว่าแฟนตายหรือเปล่า แต่กลัวความผิดเลยเอาไปใส่ท้ายรถเก๋ง

"ผมไม่ได้วางแผนฆ่า ผมไม่ได้ต้องการให้แฟนตาย อยากบอกทุกคนครับว่าอย่าทำผิดแบบผมเลยครับ และฝากขอโทษไปถึงแฟนด้วยครับ ส่วนทรัพย์สินที่ผมเอาไปมีแหวน สร้อยคอมือ และเงินสดจำนวนหนึ่ง"

ชมคลิปด้านล่าง

VVV
VV
VV
V
VV

เครดิต :

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!