วันที่ 10 พ.ค. พ.ต.ต.ชนะมาร เต็นปักษี สารวัตรเวรฯ สภ.เมืองบุรีรัมย์ ได้รับแจ้งเกิดเหตุแทงกันเสียชีวิต ที่ตำบลบ้านยางจึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนจะรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อม พ.ต.อ.บัณฑิต อ่อนสาคร ผู้กำกับการ สภ.เมืองบุรีรัมย์ เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยสว่างจรรยาธรรม และแพทย์เวรฯ โรงพยาบาลบุรีรัมย์
เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบศพนายนพรัตน์ โจทย์รัมย์ อายุ 41 ปี ต.บ้านยาง อ.เมืองบุรีรัมย์ นอนหงายเสียชีวิตอยู่บริเวณหน้าบ้านของเพื่อนบ้าน ในสภาพถูกแทงบริเวณใต้ราวนมด้านซ้ายทะลุปอดจำนวน 1 แผล เลือดไหลนองเต็มพื้น ทั้งนี้ยังพบนายอำนวย โจทย์รัมย์ อายุ 60 ปี ผู้เป็นพ่อซึ่งรับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุฆ่าลูกชายของตัวเอง และยืนรอมอบตัวอยู่ในที่เกิดเหตุไม่ได้หลบหนีแต่อย่างใด พร้อมทั้งได้พาเจ้าหน้าที่ตำรวจไปเอามีดของกลาง ซึ่งเป็นมีดปลายแหลมความยาวประมาณ 1 ฟุตที่ใช้ปลิดชีพลูกชายซึ่งนำไปเก็บไว้ที่บ้านเพื่อนำไปเป็นหลักฐาน
สอบสวนนายอำนวย ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุตนเองกลับมาจากไปหาปลา เพื่อนำมาทำกับข้าวไว้กินกับลูกชายเพราะอาศัยอยู่ด้วยกัน 2 คน แต่พอลูกชายกลับมาจากไปช่วยกางเต็นท์เพื่อเตรียมจัดงานบวชที่บ้านของเพื่อนบ้าน ซึ่งดื่มสุรามึนเมาก็มาต่อว่าหาว่าไม่ทำกับข้าวไว้ให้กินจนเกิดมีปากเสียงกันรุนแรง จากนั้นตนจึงเดินไปสงบสติอารมณ์ที่บ้านเพื่อนบ้านซึ่งอยู่ห่างกันประมาณ 30 เมตร แล้วก็ดื่มเหล้าขาวไปเล็กน้อย แต่ลูกชายก็ยังเดินตามมาต่อว่าอีก ทั้งยังใช้ไม้กวาดมาทุบตีตนด้วยความโมโห จึงคว้ามีดปลายแหลมแทงสวนไป 1 ครั้งถูกบริเวณใต้ราวนมซ้าย จนลูกชายล้มลงเลือดไหลนองเต็มพื้นเสียชีวิต ต่อหน้าเพื่อนบ้านที่พยายามจะเข้าห้ามปราม
จากนั้นนายอำนวย ได้นำมีดที่ใช้ก่อเหตุไปเก็บไว้ที่บ้าน แล้วเดินไปบอกผู้ใหญ่บ้านว่าตัวเองเป็นคนลงมือแทงลูกชายเสียชีวิต และให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจก่อนจะเดินกลับไปบ้านที่เกิดเหตุเพื่อยืนรอมอบตัวโดยไม่ได้หลบหนี ซึ่งจากการสอบถามเพื่อนบ้านบอกว่าพ่อลูกมีปากเสียงกันบ่อยครั้ง หากดื่มสุรามึนเมา
ขณะที่พนักงานสอบสวนได้คุมตัวนายอำนวย ผู้ก่อเหตุไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพในทันที ท่ามกลางญาติและชาวบ้านมามุงดูเป็นจำนวนมาก ก่อนจะควบคุมตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมาย