เจนภพ ซิ่งเบนซ์ชน 2 ศพ รับแค่ 2 ข้อหา ชดใช้ค่าเสียหายเหยื่อ

เจนภพ ซิ่งเบนซ์ชน 2 ศพ รับแค่ 2 ข้อหา ชดใช้ค่าเสียหายเหยื่อ

จากกรณีนายเจนภพ วีรพร ขับรถยนต์เบนซ์พุ่ง ชนท้ายรถยนต์ฟอร์ด ทำให้เพลิงไหม้รถ นายกฤษณะ ถาวร อายุ 32 ปี และ น.ส.ธันฐภัทร์ ฮ้อแสงชัย อายุ 34 ปี ทั้งคู่เป็นนิสิตปริญญาโท มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เสียชีวิตคาซากรถ เหตุเกิดบนถนนพหลโยธิน กม.53 หมู่ 8 ต.เชียงรากน้อย อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา เมื่อวันที่ 13 มี.ค.2559 ที่ผ่านมา หลังเกิดเหตุเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ของสังคมของการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ว่าทำงานล่าช้า จนมีการเปลี่ยนทีมพนักงานสอบสวน ภายหลังมีการเปลี่ยนพนักงานสอบสวน ได้เร่งรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง กับคดีทั้งหมด จนสามารถส่งสำนวนฟ้องต่อศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ใน 7 ข้อหา

 

คือ 1. ขับรถโดยประมาทอาจเกิดอันตรายแก่บุคคลและทรัพย์สินเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย 2. ขับรถด้วยความเร็วเกินกว่ากฎหมายที่กำหนด 3. ขับรถในขณะเมาสุราหรือเมาอย่างอื่นเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย 4. เป็นผู้ขับรถเสพยาเสพติดให้โทษ ตามกฎหมายว่าด้วยยาเสพติดให้โทษเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย 5. ขับรถในขณะหย่อนความสามารถในอันที่จะขับ 6. ขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือความเดือดร้อนของผู้อื่น 7. เป็นผู้ขับฝ่าฝืนและไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของพนักงาน เจ้าหน้าที่ หรือพนักงานสอบสวนที่สั่งให้มีการทดสอบ และตรวจสอบผู้ขับรถตามกฎหมาย โดยไม่มีเหตุหรือข้อแก้ตัวอันสมควร

 

โดยนายเจนภพให้การรับสารภาพเพียงข้อหาขับรถโดยประมาท เพียงข้อหาเดียวแต่มารับสารภาพเพิ่ม 1 ข้อหาคือ ขับรถด้วยความเร็วเกินกฎหมายกำหนด

 


ความคืบหน้าล่าสุด วันที่ 9 พ.ค. ที่ศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายเจนภพ วีรพร อายุ 37 ปี พร้อมด้วยทนายความ ญาติของผู้เสียชีวิตทั้ง 2 ราย ทีมทนายความ ได้เดินทางมาที่ศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อสืบพยานโจทก์และจำเลยนัดสุดท้าย ใช้เวลานานกว่า 5 ชั่วโมง จึงเสร็จ โดยนายเจนภพ ปฎิเสธที่จะให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าว ก่อนเดินขึ้นรถยนต์ออกไปจากศาลทันที ด้วยสีหน้าที่เรียบเฉย

 

นายวิเชียร ชุปไธสง ทนายความ ของ น.ส.ธันฐภัทร์ ฮ้อแสงชัย อายุ 34 ปี กล่าวว่า ในวันนี้เป็นการนัดสืบพยานโจทก์และจำเลยนัดสุดท้าย ซึ่งที่ผ่านมาทางครอบครัวนายกฤษณะ ถาวร ได้ตกลงยินยอมรับในการชดใช้ค่าเสียหายจากจำเลย และในวันนี้ทางฝ่ายครอบครัวของ น.ส.ธันฐภัทร์ หรือน้องเบนซ์ ยอมรับในส่วนของค่าเสียหายที่จำเลยเสนอ แต่ไม่ขอเปิดเผยตัวเลข ซึ่งทางน.ส. ธันฐภัทร์ หรือน้องเบนซ์ เป็นคนชอบปฎิบัติธรรม ทางญาติได้ตั้งใจว่าจะดำเนินการนำเงินทั้งหมดมาก่อตั้งมูลนิธิในส่วนเรื่องของการส่งเสริมพระพุทธศาสนา และจะร่วมรณรงค์ในเรื่องอุบัติเหตุโดยเฉพาะการขับขี่รถยนต์ในความประมาท เพราะน้องเบนซ์ มาเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุเพราะความประมาท ต่อไปจะเป็นการดำเนินคดีในส่วนของคดีอาญา ซึ่งศาล ได้เลื่อนการไต่ส่วนสอบสวนพยานฝ่ายจำเลยและโจทก์อีกครั้งในวันที่ 19 พ.ค.

 

นายเจริญ แก้วยอด อาของนายเจนภพ กล่าวว่า ทาง นายเจนภพ และครอบครัว ได้มีความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและยอมรับผิด พร้อมทั้งรับผิดชอบทุกอย่างที่ได้กระทำไป คดีนี้จะเป็นคดีตัวอย่างในสังคม ที่คนผิดต้องยอมรับผิดและรับผิดชอบในสิ่งที่กระทำลงไป เวรกรรมมีจริงต้องชดใช้กรรมที่กระทำ ส่วนจำนวนเงินไม่ขอเปิดเผยไม่อยากให้เอาจำนวนเงินมาตีค่าเป็นตัวเลข พันล้านก็ไม่คุ้ม


Cr.khaosod

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์