เปิดผังซื้อกาม!! ด.ญ.แม่ฮ่องสอน จ่อจับเพิ่มมีตั้งแต่ทหาร สจ. คนขายเต้าหู้!!

เปิดผังซื้อกาม!! ด.ญ.แม่ฮ่องสอน จ่อจับเพิ่มมีตั้งแต่ทหาร สจ. คนขายเต้าหู้!!

"ศรีวราห์" เปิดผัง คดีกามด.ญ. หลังบินจี้คดีที่แม่ฮ่องสอนพบยังมีเข้าข่ายถูกดำเนินคดีอีก 7 ราย ทั้งทหาร ส.จ. ข้าราชการ ยันคนขายเต้าหู้ ขณะที่ 4 ตร.ที่ถูกออกหมายเรียก เข้ารับทราบข้อหา ก่อนถูกให้ออกราชการไว้ก่อน ส่วนรองผกก.สภ.ไชยปราการ ปิดบ้านเงียบ คาดเผ่นหนีไปแล้ว รอง ผบ.ตร.ชี้ผลสอบ กรณีผวจ.แม่ฮ่องสอน ของมหาดไทย ขัดแย้ง 2 พยาน ที่ผ่านเครื่องจับเท็จแล้ว อยู่ระหว่างประสานข้อมูล ว่าขัดแย้งตรงไหน

เมื่อวันที่ 5 พ.ค. ที่ กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดแม่ฮ่องสอน พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางไปตรวจดูการดำเนินคดีกลุ่มข้าราชการตำรวจและครูที่ถูกกล่าวหาเกี่ยวข้อง กับคดีบังคับค้ากามเด็กหญิง โดยวันนี้มีตำรวจเข้ามารายงานตัวตามหมายเรียก 4 นาย จากที่ออกหมายเรียก 5 นาย ประกอบด้วย พ.ต.ท. พงษ์นรินทร์ พลนำ ผบ.ร้อย ตชด.336 ร.ต.ท.อำนาจ กายะวิน ด.ต.บุญหลง วงศ์โท๊ะ และส.ต.ท.จิราวัฒน์ นามเมืองพรม ส่วนพ.ต.ท.มงคล ปันตี รองผกก. อำนวยการ ภ.จว.มส. ยังไม่เข้ารายงานตัว ขณะที่นายวิทยา ภูติรักษ์ หรือครูบอย ที่ถูกออกหมายเรียกอีกคนแจ้งว่าจะเข้าพบพนักงานสอบสวน ก่อนวันที่ 15 พ.ค. จากนั้นรอง ผบ.ตร.เดินทางไปดูสถานที่เกิดเหตุ ที่บ้านพักข้าราชการตำรวจภูธรจังหวัดแม่ฮ่องสอนเลขที่ 82/3 ซึ่งเป็นบ้านพักของพ.ต.ท.มงคล ปันตี รองผกก.ป.สภ.ไชยปราการ จ.เชียงใหม่ ช่วย ราชการภ.จว.แม่ฮ่องสอน หนึ่งในผู้ที่ถูกออกหมายเรียก แต่พบบ้านปิดล็อกสภาพบ้านว่างเปล่า มีเพียงผ้าเช็ดตัวหนึ่งผืนและโรลออนหนึ่งขวดทิ้งไว้เท่านั้น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าขณะเดียวกัน นายประเสริฐ ประดิษฐ์ ประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดแม่ฮ่องสอน และประธานสภาพลเมือง และนายบุญยืน คงเพชรศักดิ์ รองประธานสภาพลเมือง ได้ยื่นหนังสือผลการประชุมสภาพลเมือง เรื่องการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ และค้าประเวณี ต่อพล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพรามณกุล เพื่อผ่านไปถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี โดยจะเอาปัญหาในแม่ฮ่องสอนเป็นจุดเริ่มต้นในการหาวิธีการในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในระยะสั้น กลาง. และระยะยาว เพื่อนำเป็นโมเดลในการแก้ไขปัญหาทั่วประเทศ

ต่อมาจ.ส.อ.ขัตพันธ์ บุตรสอน เจ้าหน้าที่ กอ.รนม.จ.แม่ฮ่องสอน หรือลุงพัน ที่กลุ่ม แม่เล้า ซึ่งถูกจับกุมแล้วก่อนหน้า อ้างว่าได้ติดต่อสอบถามทำนองจะช่วยเหลือ เข้าพบ พลตำรวจเอกศรีวราห์ ที่ท่าอากาศยานแม่ฮ่อง สอน โดยได้นำหลักฐานการสนทนาผ่าน แอพไลน์ เข้าชี้แจงกับพล.ต.อ.ศรีวราห์ ว่าตนไม่ได้จะเข้าไปช่วยเหลือ โดยพล.ต.อ.ศรีวราห์ สั่งการให้ตำรวจภูธรจังหวัด แม่ฮ่องสอนนำหลักฐานไปพิจารณาหาก เข้าข่ายความผิดก็ให้ดำเนินคดี

ขณะที่ ด.ต.บุญหลง หนึ่งในตร.ที่ถูกแจ้งข้อหาเปิดเผยว่า ตนเองขอปฏิเสธว่าไม่มีส่วนรู้เห็นกับเรื่องนี้ และส่วนตัวไม่รู้จักกับ ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมไปก่อนหน้า รวมถึง ผู้เสียหายก็ไม่เคยเจอกัน และไม่ทราบจุดประสงค์ที่ทำให้เกิดเรื่องดังกล่าวขึ้น

ต่อมาเวลา 13.00 น. ที่ กองบัญชาการภูธรภาค 5 จ.เชียงใหม่ พล.ต.อ.ศรีวราห์ พร้อมด้วยพล.ต.ท.พูลทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ ผบช.ภ.5 ประชุมร่วมกับผู้บังคับการตำรวจภูธรทุกจังหวัดในกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 เพื่อกำชับมาตรการในการป้องกันและ ปราบปรามการค้ามนุษย์ในพื้นที่ภาคเหนือ

ภายหลังประชุม พล.ต.อ.ศรีวราห์ ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า ขณะนี้ข้าราชการตำรวจ 8 นายที่ถูกออกหมายจับและหมายเรียกเข้ามาพบพนักงานสอบสวนแล้ว 7 นายมีเพียงพ.ต.ท.มงคล ที่ลงบันทึกประจำวันว่าไปราชการตั้งแต่เมื่อวันที่ 4 พ.ค.ที่ผ่านมา แต่สอบถามผู้บังคับบัญชายืนยันว่าไม่มีการสั่งการให้ไปปฏิบัติราชการใดๆ จึงเท่ากับว่าขาดราชการ ตนสั่งการให้ตั้งคณะกรรมการสืบสวนสอบสวนวินัยกรณีขาดราชการด้วย นอกเหนือจากกรณีต้องคดีอาญา โดยสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน อย่างไรก็ตามหากพยานหลักฐานโยงไปถึงใครอีกก็จะต้องดำเนินคดี สำหรับพ.ต.ท.มงคล หากไม่มารายงานตัวตามหมายเรียกก็จะถือว่าขัดหมายเรียกครั้งที่ 1 เร็วๆ นี้จะออกหมายเรียกอีกครั้งหากไม่มาอีกก็จะต้องเสนอขออนุมัติหมายจับต่อไป นอกจากนี้ยังมีข้าราชการครูที่เคยทำงานในแม่ฮ่องสอน แต่ตอนนี้ย้ายไปอยู่ที่อื่นแล้ว ได้ประสานงานจะมาพบพนักงานสอบสวนตามหมายเรียกก่อนวันที่ 15 พ.ค.นี้

พล.ต.อ.ศรีวราห์กล่าวต่อว่า สำหรับการดำเนินคดีกับผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ยังอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน ทั้งนี้ต้องไปชั่งน้ำหนักคำให้การคำซัดทอดของพยานต่างๆ ว่าเชื่อถือได้หรือไม่ รวมถึงนำผลการสอบสวนของกระทรวงมหาดไทยมาพิจารณาด้วย แม้เป็นคนละส่วนกันแต่ก็ต้องเป็นปัจจัยหนึ่งในการนำมาชั่งน้ำหนักพยานหลักฐาน หากพฤติกรรมเข้าข่ายความผิดข้อใดก็ต้องแจ้งข้อกล่าวหาตามนั้น ส่วนที่ผู้บังคับการกองบังคับการปราบปรามการ ค้ามนุษย์ระบุว่าไม่มีหลักฐานเอาผิดฐาน ค้ามนุษย์ ก็ชัดเจนว่าไม่มีความผิดฐานค้ามนุษย์ แต่ในส่วนภูธรจังหวัดแม่ฮ่องสอนก็ดำเนินไปตามพยานหลักฐานอื่นๆ ว่ามีความผิดตาม พ.ร.บ.ป้องกันการค้าประเวณี ฐานสนับสนุนหรือไม่ ซึ่งเรื่องไม่จำเป็นต้องมี ผู้เสียหายแต่เป็นคดีอาญาที่รัฐเป็นผู้เสียหาย จากการนำพยาน 2 ราย ในคดีนี้เข้าเครื่องจับเท็จ พบว่าไม่ได้พูดโกหก ซึ่งไปขัดแย้งกับ ผลสอบของกระทรวงมหาดไทย ที่ว่าผู้ว่าฯไม่มีความผิด ซึ่งตนจะประสานขอข้อมูล ดังกล่าว จากกระทรวงมหาดไทย เพื่อมาประกอบสำนวนการทำคดี เพื่อหาจุดขัดแย้งและชั่งน้ำหนักพยานหลักฐานทั้งหมด เพื่อดำเนินคดีหากพบว่ามีความผิดตามกฎหมายดังกล่าว ที่มีโทษจำคุกก็ต้องว่าให้สิ้นกระแสความ อย่างไรก็ตามการคลี่คลายคดีนี้พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ สั่งการให้ดำเนินคดีอย่างตรงไปตรงมาและเข้มข้น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าพล.ต.อ.ศรีวราห์ ได้เปิดผังคดีระหว่าวแถลงข่าว ซึ่งระบุว่าการสืบสวนยังพบว่ามีกลุ่มผู้ซื้อประเวณีที่จะต้องถูกดำเนินคดีอีก 7 คน มีทั้งเจ้าหน้าที่อส.จ.แม่ฮ่องสอน ส.จ. ทหาร เจ้าหน้าที่แขวงการทาง เจ้าหน้าที่สาธารณสุขและคนขายเต้าหู้ซึ่งผู้เสียหายบอกว่าทั้งหมดเคยซื้อประเวณี ขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมหลักฐานเพื่อดำเนินคดี

สำหรับคดีนี้ตำรวจดำเนินคดีทั้งสิ้น 37 คดี แบ่งเป็นตำรวจภูธรจังหวัดเแม่ฮ่องสอน 37 คดี โดยเป็นความผิดค้ามนุษย์ 29 คดี ซื้อประเวณี 7 คดี โทรมหญิง 1 คดี จับกุม ผู้ต้องหา 9 คน และกองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ 1 คดี โดยจับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งหมด 8 คน ซึ่งอยู่ระหว่างสืบสวนสอบสวนเพื่อขยายผลหาผู้ต้องหาอื่นเพิ่มเติม

ทางด้าน พ.อ.พีรวัชฌ์ แสงทอง โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) กล่าวถึงกรณีกอ.รมน.มีคำสั่งย้ายจ.ส.อ.ขัติพันธ์ บุตรสอน เจ้าหน้าที่กอ.รมน.จ.แม่ฮ่องสอน กลับหน่วยงานต้นสังกัด หลังโพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัวดัดแปลงล้อเลียนคำขวัญจังหวัดแม่ฮ่องสอน จนทำให้ชาวจ.แม่ฮ่องสอนไม่พอใจว่า เดิมจ.ส.อ.ขัติพันธ์ สังกัดร.7 พัน 5 อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ มาช่วยงานราชการที่กอ.รมน. จ.แม่ฮ่องสอน แต่ประพฤติตนไม่เหมาะสม ถือเป็นความผิดทางวินัย และทางหน่วยต้นสังกัดจะมีกระบวนการสอบสวนต่อไป เพราะถือว่านำความเสื่อมเสียชื่อเสียงมาสู่หน่วยงาน จึงมีคำสั่งให้ย้ายกลับต้นสังกัดในภาย 24 ชั่วโมง ส่วนกรณีที่มีการ กล่าวหาว่าจ.ส.อ. ขัติพันธ์ เกี่ยวข้องกับคดีค้ามนุษย์ใน จ.แม่ฮ่องสอนนั้น ก็ต้องดำเนินการไปตามกระบวนการยุติธรรม ซึ่งทางกอ.รมน. ยืนยันว่าจะไม่ปกป้องคนผิด เพื่อให้เกิดความยุติธรรมในสังคม ทางกอ.รมน.ยินดีให้ความร่วมมือเต็มที่

นายกฤษฎา บุญราช ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า กรณีปคม. ออกมาระบุว่าหลักฐานอาจไม่ถึง ผวจ.แม่ฮ่องสอน ก็ไม่สามารถดำเนินคดีได้ว่า ทางคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงของกระทรวงมหาดไทย จะนำข้อมูลเหล่านี้มาประกอบการพิจารณาทั้งหมด เพราะต้องสอบทุกมิติ ดังนั้นต้องให้เป็นเรื่องของคณะกรรมการสอบสวน ตนดูเพียงแค่ภาพรวม ส่วนที่นายประยูร รัตนเสนีย์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ฐานะประธานสอบ จะไปสอบสวนที่จ.แม่ฮ่องสอนเพิ่มเติมนั้น คงต้องรอความชัดเจนจากนายประยูร ว่า จะลงพื้นที่ในช่วงใด ทั้งนี้ ขอพูดตรงๆ ว่าใครสอบอะไรก็ไม่ได้ ต้องให้ศาลเป็นผู้ชี้ตัดสิน เพราะสังคมไทยแตกแยกมามาก ถ้าไม่เอาศาลมาพูดก็ไม่มีใครเชื่อ ใครพูดอะไรก็ไม่เชื่อ

แหล่งข่าวใกล้ชิดนายสืบศักดิ์ เอี่ยมวิจารณ์ ผวจ.แม่ฮ่องสอน กล่าวว่า ในวันที่ 22-28 ก.ย.2559 นายสืบศักดิ์ เดินทางมาสัมมนาโครงการศึกษาอบรมเพื่อพัฒนาสมรรถนะผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงมหาดไทยที่ รร.มิราเคิล แกรนด์ ถ.วิภาวดี กรุงเทพฯ ซึ่งสามารถตรวจสอบไฟลต์การเดินทางผ่านสนามบินได้ และเรื่องนี้คณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงของกระทรวงมหาดไทยก็ได้สอบข้อเท็จจริงและรวบรวมหลักฐานไปบ้างแล้ว ขณะที่นายสืบศักดิ์ ระบุว่า ไม่รู้สังคมไทยเป็นอะไร จะเอาอะไรกัน มีใครก็ไม่รู้พูดอะไรขึ้นมาอย่างหนึ่ง สังคมก็ว่าคนถูกพาดพิงซะพัง แล้วอย่างนี้ประเทศเราจะอยู่ได้อย่างไร ตอนนี้อยากให้แก้กันที่สังคมไทย อย่าเล่นอะไรที่ไม่ถูกต้อง แล้วทำให้สังคมเสียหายหรือตกเป็นเหยื่อของขบวนการที่ไม่ถูกต้อง ตอนนี้ไม่อยากพูดอะไรแล้ว อยากให้สังคมมานั่งพิจารณาตัวเองว่าเป็นอย่างไร จะแก้ปัญหาประเทศอย่างไร

แหล่งข่าวกล่าวอีกว่า ส่วนกรณีที่ปคม. สอบพยานแล้วไม่มีพยานคนใดซัดทอดว่า ผวจ.แม่ฮ่องสอนเกี่ยวข้องนั้น นายสืบศักดิ์ทราบเรื่องดังกล่าวผ่านสื่อแล้ว แต่ไม่อยากจะพูดอะไรมาก เพราะข่าววันนี้ออกมาเป็นอย่างหนึ่ง แต่อีกวันอาจกลายเป็นอย่างหนึ่งได้


เปิดผังซื้อกาม!! ด.ญ.แม่ฮ่องสอน จ่อจับเพิ่มมีตั้งแต่ทหาร สจ. คนขายเต้าหู้!!


เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์