จากกรณี นายชวลิต ศรีมั่นคงธรรม อายุ 41 ปี หรือ ‘ดีเจเชาเชา' พิธีกรชื่อดัง ขับรถยนต์ยี่ห้อเลกซัส สีขาว ทะเบียน กฆ 6782 กรุงเทพมหานคร เฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์ของ นายจิรภาษ ธงอาษา อายุ 18 ปี บริเวณถนนตัดใหม่วัชรพล-สุขาภิบาล 5 แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กรุงเทพฯ เวลาประมาณ 01.00 น. เมื่อวันที่ 27 เม.ย. ที่ผ่านมา เป็นเหตุให้ นายจิรภาษ เสียชีวิตเมื่อวันที่ 2 พ.ค.ที่ผ่านมา ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 4 พ.ค. เวลา 11.00 น. ที่ สน.สายไหม พ.ต.อ.ธนกรณฑ์ ก้อนแก้ว ผกก.สน.สายไหม กล่าวว่า เมื่อช่วงเช้าผู้ชำนาญการตรวจสภาพได้ตรวจพิสูจน์รถของดีเจเชาเชาแล้ว คงต้องรอ 1-2 วัน จึงจะทราบรายละเอียด
‘ส่วน ดีเจเชาเชา ได้ประสานกับพนักงานสอบสวนแล้วว่าจะเข้าให้ปากคำด้วยตัวเองในวันนี้ เวลา 17.00 น. ซึ่งก็ไม่แน่ใจว่าจะมาเอง หรือจะส่งทนายส่วนตัวมาแทน แต่ก็เป็นเรื่องจำเป็นที่ ดีเจเชาเชา จะต้องเดินทางมาด้วยตัวเอง เพราะต้องให้การกับพนักงานสอบสวน เป็นลายลักษณ์อักษร เท่าที่รู้ ดีเจเชาเชา พบกับพนักงานสอบสวนแค่ 1-2 ชั่วโมง หลังเกิดเหตุ ถึงตรงนี้ก็ยังไม่มีคำให้การเป็นบันทึก ถ้า ดีเจเชาเชา ไม่มาพบในวันนี้ ทางเจ้าหน้าที่ก็จะออกหมายเรียกในวันพรุ่งนี้ (5 พ.ค.) ซึ่งเมื่อวันที่ 3 พ.ค.ที่ผ่านมา ทนายก็เข้ามาให้ข้อมูลว่า ดีเจเชาเชา ยอมรับว่าชนจริง ส่วนรายละเอียดการชนก็ต้องดูว่าเขาจะพูดว่าอย่างไร เพราะหลังเกิดเหตุ ดีเจเชาเชา ได้มาลงบันทึกประจำวันว่าอยู่ในที่เกิดเหตุและลงชื่อเป็นคู่กรณี ซึ่งในรายละเอียดไม่ได้ลงบันทึกไว้อย่างชัดเจน' ผกก.สายไหม กล่าว
จากการตรวจสอบรถเบื้องต้นสรุปได้ว่า เกิดการชนกันจริง พบร่องรอยที่บริเวณกระจังหน้า ป้ายทะเบียน และแผงใต้กันชน ซึ่งรอยเท่าที่ดูก็น่าจะเข้ากันได้ แต่ต้องรอรายงานจากผู้ตรวจอีกที ส่วนการสอบพยานเพื่อนผู้เสียชีวิต ระบุว่า มาขับรถเล่นกัน แล้วมีวัยรุ่นอีกกลุ่มขว้างก้อนหินมาจากด้านบนสะพาน ก็เลยตกใจแล้วขับรถพุ่งไป ซึ่งจากการตรวจสอบที่เกิดเหตุก็ขัดๆกับคำให้การหลายอย่าง เพราะบริเวณใต้สะพานจุดที่มีรอยเบรกรอยชน ไม่น่าจะถูกขว้างก้อนหินได้ เพราะอยู่ใต้สะพานพอดี จะให้เขาขว้างวิถีโค้งก็เป็นไปไม่ได้ แต่จะดำเนินคดีข้อหาให้การเท็จหรือไม่นั้น ขณะนี้ยังไม่แน่ใจว่าเท็จหรือไม่ ซึ่งอาจจะมีการขว้างก้อนหินจริงก็ได้ เบื้องต้นก็ต้องรับฟังไว้ก่อน
หลังจากนี้จะรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่ม แต่ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ได้ภาพจากกล้องวงจรปิดอยู่ 1 ตัว ซึ่งกล้องตัวดังกล่าวน่าจะสามารถจับภาพได้อย่างชัดเจน แต่ต้องรอประมาณ 2 วัน ถึงจะดูภาพได้ เนื่องจากเป็นของ กทม. ต้องมีการประสานก่อน