จากกรณีกลุ่มวัยรุ่นรุมทำร้าย นายชาติชาย ทองขาว อายุ 35 ปี รปภ.แขนพิการของหอพักลูกกวาด ตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามคิวรถตู้บางแสน จ.ชลบุรี จนสลบเหมือด หลัง รปภ.คนดังกล่าวไปเตือนไม่ให้หนุ่มวัยรุ่นปัสสาวะที่หน้าหอพัก ในช่วงวันไหล บางแสน ล่าสุด นายชาติชาย กลับไปทำงานตามปกติแล้ว แม้ร่างกายจะยังไม่หายดีก็ตาม
ไทยพีบีเอส รายงานว่า ด้วยความรับผิดชอบต่องาน นายชาติชายจึงกลับมาทำหน้าที่รักษาความปลอดภัยหอพักในช่วง 18.00 น.- 6.00 น. เหมือนที่เคยทำมาตลอด 3 ปี แขนขวาที่พิการเพราะโปลิโอแต่กำเนิด และสมองที่เคยผ่านการผ่าตัด ประกอบกับโรคหอบหืด ทำให้นายชาติชายออกเรี่ยวแรงได้ไม่เท่าชายวัยทำงานคนอื่น และก่อนหน้ายังถูกปฏิเสธรับเข้าทำงานบ่อยครั้ง
"ผมพยายามทำให้เขาเห็นว่า ความดีในตัวเรา มีอะไรพิเศษ มีอะไรดี ทำให้เขาเห็นว่าเราเป็นได้มากกว่ายาม ผมก็มีอยู่ในใจอยู่แล้วน่ะครับ ผมก็เลยมั่นใจว่าผมทำได้แน่ และคิดว่าทำได้ดีด้วย"
ความขยัน ความรับผิดชอบต่อหน้าที่ และความมีน้ำใจ ทำให้คนใกล้ชิดมองข้ามความบกพร่องทางร่างกายของนายชาติชายไป นางนิดา เปรมเหี่ยว แม่บ้านหอพัก ยังเผยว่า "ลูกค้าก็ไม่เคยมาพูดหรือบอก เขาก็โอเคเพราะสงสาร ให้โอกาส ไม่เคยมาบอกว่ายามอย่างโน้นยามอย่างนี้ เวลามีอะไรก็ให้ไปช่วยเหลือ เขาก็ทำ"
นอกจากงาน รปภ. นายชาติชาย ยังเก็บขวดแก้วและขยะรีไซเคิล เป็นรายได้เสริม จากงาน รปภ. ที่ได้วันละ 430 บาท รายได้ทั้งหมดของชาติชาย นำมาใช้จ่ายและเลี้ยงดูแม่วัย 78 ปี ที่อาศัยอยู่กับพี่ชายอีกคนในบ้านเช่าหลังเล็กๆ
"ผมตั้งใจว่า ผมจะทำบ้านให้แม่อยู่ หลังหนึ่งก่อนตอนที่แม่ยังอยู่ ผมก็จะทำให้ได้ ทุกวันนี้ก็กำลังเก็บเงินอยู่ครับ ก็ตั้งใจจะทำบ้านให้เสร็จ หลังจากนั้นตั้งใจจะหาเงินซื้อที่ เผื่อว่าจะกลับบ้านได้"
นางนกน้อย เก่งนอก แม่ของนายชาติชาย กล่าวว่า "ก็ได้เงินมาเขาก็มาให้แม่ ซื้อข้าวซื้อปลา หรือแม่ป่วยอยากได้ยา เขาก็ช่วย ภูมิใจมาก"
แม้เหตุการณ์ที่นายชาติชายถูกวัยรุ่นรุมทำร้าย ทำให้แม่ยังกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของลูกชาย แต่เพื่อบ้านในฝันที่อยากกลับไปสร้างที่ จ.เพชรบูรณ์ บ้านเกิด ทำให้ รปภ.ใจสู้ ขอเพียงการยอมรับและให้โอกาสคนพิการทำงานสุจริต หวังสร้างอนาคตและเก็บหอมรอมริบเพื่อครอบครัว
ชมคลิปด้านล่าง