นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (เลขาธิการ กสทช.) เปิดเผยภายหลังการประชุมกับกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) สำนักงานข่าวกรองแห่งชาติ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตในประเทศ (ไอเอสพี) และผู้ให้บริการโครงข่ายอินเทอร์เน็ตต่างประเทศ (ไอไอจี) ว่าการดำเนินการกับเว็บไซต์ที่มีเนื้อหาหมิ่นสถาบันเบื้องสูง ให้อำนาจไอเอสพีถอดเนื้อหาเว็บไซต์หมิ่นได้ทันที โดยไม่ต้องรอคำสั่งจาก กสทช. หรือ กระทรวงดีอี จากก่อนหน้านี้ กสทช.จะมีหนังสือออกเป็นคำสั่งของ กสทช. หรือคำสั่งของกระทรวงดีอีให้เอาเว็บไซต์และเนื้อหาที่ผิดกฎหมายออก โดยผู้ให้บริการที่ได้รับหนังสือคำสั่งได้ถอดเนื้อหาผิดกฎหมายออกทั้งหมด
สำหรับเนื้อหาในซีดีเอ็น (Content Delivery Network) ซึ่งตั้งสำนักงานในประเทศไทยยังพบเนื้อหาผิดกฎหมาย แต่ยังไม่สามารถดำเนินการได้ โดย กสทช.จะจัดทำวาระเสนอที่ประชุมคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.) ดำเนินการ ซึ่งจะมีมติแจ้งอีกครั้งในวันที่ 27 เม.ย. โดยภายในสิ้นเดือน เม.ย.หรือต้นเดือน มิ.ย. ต้องเกิดผลการดำเนินงานอย่างเป็นรูปธรรม
ด้านเนื้อหา หรือเว็บไซต์ที่มีการเข้ารหัสทำให้ผู้ให้บริการไอเอสพีไม่สามารถถอดออกได้ทันทีให้ดำเนินเรื่องแจ้งกระทรวงดีอี ซึ่งเป็นหน่วยงานหลักในการดำเนินการ เพื่อประสานงานหน่วยงานภายนอกประเทศ ให้ติดต่อผู้ให้บริการ ดำเนินการเอาเว็บไซต์ที่ผิดกฎหมายออก
ทั้งนี้ เนื้อหาและเว็บไซต์ที่มี ความคลุมเครือว่าผิดกฎหมายหรือไม่ ให้รอคำสั่ง กสทช. หรือกระทรวงดีอีอีกครั้ง โดยเนื้อหาที่ผิดกฎหมายยังครอบคลุมไปถึงการละเมิดลิขสิทธิ์และเนื้อหาลามก
"ได้กำชับให้ผู้ให้บริการไอเอสพีเอาเนื้อหาผิดกฎหมายออก โดยเฉพาะกรณีมาตรา 112 ให้ดำเนินการทันทีไม่ต้องรอคำสั่ง กสทช. แต่ความยากในการดำเนินการคือความร่วมมือของผู้ให้บริการโอทีที หรือโอเวอร์ เดอะ ท็อปในต่างประเทศที่มีการเข้ารหัสเนื้อหา โดยที่ผ่านมาทาง กสทช.ได้พยายามดำเนินการในประเด็นนี้มาตั้งแต่ปี 2557 แล้ว" นายฐากร กล่าว