เมื่อวันที่ 22 เมษายน 2560 เวลา 11.00 น. นางน้ำเพชร ( สงวนนามสกุล ) มารดาของหญิงสาวที่เปิดเผยเรื่องการบังคับค้ากามในพื้นที่ น้ำเพียงดิน จ.แม่ฮ่องสอน (อ่าน แม่ช็อกรูปลูกโผล่ในขบวนการค้ากาม รู้ความจริงถึงกับทรุด แฉจับสักนกฮูกแสดงสัญลักษณ์(คลิป)) เปิดเผยต่อผู้สื่อข่าวหลังเดินทางเข้าไปซ่อนตัวที่กรุงเทพมหานครแล้ว ว่า เรื่องกรณีบุตรสาวของตัวเองถูกบีบบังคับให้ค้าประเวณี นั้นพอตนได้ไปร้องเรียนต่อหลายหน่วยงาน ได้มีกลุ่มฝ่ายตรงข้าม ซึ่งเป็นเจ้านายของนายดาบคนหนึ่ง ได้ติดต่อผ่านคนกลางมาเพื่อขอเสนอเงินจำนวน 1 ล้านบาทเพื่อขอไม่ให้เดินเรื่อง ให้เป็นคดีค้ามนุษย์ ขอเป็นแค่การค้าประเวณีเท่านั้น แต่ตนไม่ยอมรับข้อเสนอดังกล่าว เนื่องจากตนถึงแม้จะไม่ร่ำรวยหรือมีอำนาจ อิทธิพลเหมือนข้าราชการระดับสูง แต่ตนก็มีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์มากพอ และไม่เห็นแก่เงินใดใด หลังจากนั้นตนยังถูกข่มขู่จากคนมีสี ว่า จะมีชีวิตต่อไปอีกได้ไม่นาน ซึ่งในตอนแรกตนกลัวมาก แต่เมื่อถูกข่มขู่หนักขึ้น จากความกลัวกลายเป็นความโกรธและคิดว่าต้องต่อสู่กับกลุ่มอิทธิพลมืดให้ได้ จึงกล้าเข้าร้องเรียนต่อสื่อมวลชน
"เหตุที่ตนต้องการให้มีการดำเนินคดีเจ้าหน้าที่ตำรวจและผู้เกี่ยวข้อง รวมไปถึงกลุ่มข้าราชการระดับสูงที่ใช้บริการเด็กในตัวเมืองแม่ฮ่องสอน เนื่องจากต้องการตัดวงจรอุบาทว์ในพื้นที่ออกไปจากสังคมในเมืองแม่ฮ่องสอน เพราะการชักนำเด็ก ไปค้าประเวณี มีการกระทำเป็นขบวนการ ซึ่งในปัจจุบัน มีกลุ่มแม่เล้าเด็ก อยู่ในพื้นที่จำนวนประมาณ 11 กลุ่ม โดยที่เด็กสาวเหล่านั้น ที่ตกเข้าสู่วงการอุบาทว์ดังกล่าว จะไม่รู้เท่าทันเกมส์ของ กลุ่มเจ้าหน้าที่ ที่แสวงประโยชน์จากเด็ก และพยายามให้เพื่อน ๆ ของเด็กที่ตกเป็นเป้าหมาย เข้าไปตีสนิทและมอบสิ่งของกำนัล ได้แก่มือถือรุ่นฮิต ราคาแพง รวมไปถึงการชักชวนให้เสพยาบ้า และลักลอบถ่ายวีดีโอคลิปไว้เพื่อ แบลคเมย์ หากไม่ยอมทำตามคำสั่ง"
อย่างไรก็ตาม ในกลุ่มเด็กสาวที่ตกเข้าสู่กระบวนการค้าประเวณี ส่วนหนึ่งก็เต็มใจที่จะทำเนื่องจากได้เงินใช้ไม่ขาดมือ อีกทั้งครอบครัวมีฐานะยากจน และคิดว่าคนที่ตนไปนอนด้วยนั้นเป็นถึงผู้หลักผู้ใหญ่ข้าราชการระดับสูง จะไม่กล้าเปิดเผยเรื่องนอนกับเด็กสาว ทำให้ตนเองไม่ต้องเดือดร้อนในอนาคต ซึ่งจะสังเกตได้ว่า เด็กสาวที่กำลังเรียนอยู่ในวิทยาลัย หรือโรงเรียนในพื้นที่ของตัวจังหวัด หากเด็กสาวคนไหนมีมือถือไอโฟนรุ่นใหม่ ๆ ใช้ ร้อยละ 90 จะเป็นเด็กที่ค้าประเวณีแทบทั้งสิ้น
ในแต่ละครั้งที่มีการนำเด็กสาวไปบำเรอกามข้าราชการระดับสูง จะมีการใช้รถตราโล่ห์ของ สภ.แห่งหนึ่ง ไปส่ง ตามสถานที่ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นแฟลต ตร.หลังโรงพัก , บ้านพักข้าราชการในแขวงการทาง และ รีสอร์ทต่าง ๆ ที่สำคัญหลังจากที่ตนได้เดินทางไปร้องเรียนต่อ ปคม.ที่ กรุงเทพมหานครแล้ว พบว่า ได้มีกลุ่มตำรวจกลุ่มหนึ่งของภาคเหนือ ได้เข้ามาในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน และ บีบบังคับให้เด็กสาวที่อยู่ร่วมในขบวนการค้าประเวณี ขึ้นรถตู้ไปที่เซฟเฮ้าท์แห่งหนึ่ง และมีการข่มขู่เด็กสาวเหล่านั้น ไม่ให้เป็นพยานแก่ตน แต่โชคดีที่มีเด็กหลายคนในนั้น ได้แอบบันทึกเสียงของกลุ่มตำรวจดังกล่าวไว้ และ คลิปเสียงเหล่านั้น ตอนนี้อยู่ในมือของตนเรียบร้อยแล้วด้วย