โจรบาปบุกงัดมณฑปพระประธานวัดบุญศรีมุนีกรณ์ ย่านรามอินทรา กรีดกระจกหน้าต่างเข้าไปขโมยอัญมณีล้ำค่า แก้วขนเหล็ก-โป่งข่าม-ไหมทอง อีกทั้งทับทิม-บุษราคัมล้อมไพลิน มูลค่า 2 แสน ที่ทางวัดเตรียมนำมาประดับองค์พระประธานพระพุทธรูปปางมารวิชัย ก่อนย้ายมาประดิษฐานที่อุโบสถหลังใหม่ในอีกไม่กี่เดือนนี้ เจ้าอาวาสเผยคนร้ายระดับมืออาชีพ เจาะจงขโมยอัญมณีชุดนี้ไปด้วยความเชื่อสรรพคุณช่วยป้องกันทางคุณไสย หลังตรวจสอบภาพกล้องวงจรปิดพบชายวัยกลางคนไม่สวมเสื้อมาทางโรงครัว ย่องเข้าทางหน้าต่างมณฑปเข้ามากราบพระประธาน ก่อนกวาดทรัพย์สินและหลบหนีไป ก่อนเกิดเหตุช่วงเย็นวันที่ 15 เม.ย. ชาวบ้านพบกลุ่มผู้ต้องสงสัย 4 คนมาป้วนเปี้ยนดูลาดเลาแถววัด เผยข้อมูลวัดนี้ตั้งแต่ปี 2552 เคยถูกคนร้ายเข้ามาขโมยทรัพย์สินมาแล้ว 13 ครั้ง ลักพระพุทธรูปไปกว่า 100 องค์ ล่าสุดเมื่อต้นปีพระประจำวันเกิดเพิ่งถูกลักไป 2 องค์
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 16 เม.ย. ร.ต.อ.วิทยา คงทอง รองสว.(สอบสวน) สน.โคกคราม รับแจ้งเหตุคนร้ายงัดมณฑปประดิษฐานพระพุทธมหามณีนพรัตน์ ภายในวัดบุญศรีมุนีกรณ์ ซอยรามอินทรา 46 แยก 9 แขวงรามอินทรา เขตคันนายาว กรุงเทพฯ จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์ หลักฐาน ที่เกิดเหตุเป็นมณฑปประดิษฐานพระประธานชั่วคราว สูง 5 เมตร กว้าง 50 ตารางวา ที่บริเวณกระจกหน้าต่างด้านข้างมีร่องรอยถูกกรีดเป็นวงด้วยเครื่องมือช่างจนใช้มือสอดเข้าไปปลดล็อกตัวล็อกบานหน้าต่างจากด้านใน และบริเวณสถานที่ประดิษฐานพระประธานซึ่งเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ศิลปะรัตนโกสินทร์ ถูกสร้างด้วยทองเหลืองทั้งองค์และประดับอัญมณีแท้ทั้งหมด ขนาดหน้าตักกว้าง 3 เมตร สูง 4 เมตร โดยเตรียมไว้เพื่อประดิษฐานที่พระอุโบสถที่จะแล้วเสร็จในอีก 4-5 เดือนนี้ ซึ่งบรรจุอยู่ในห้องกระจกอีกชั้นมีร่องรอยถูกทุบจากทางด้านซ้ายของพระประธาน โดยที่พระหัตถ์ขวาพบอัญมณีหายรวม 3 เม็ด ประกอบด้วย ทับทิม 2 เม็ด และบุษราคัมล้อมไพลิน 1 เม็ด ห่างออกไปตรงประตูทางเข้า-ออก พบตู้บูชาอัญมณีถูกกรีดเป็นวงกว้าง ทรัพย์สินถูกรื้อค้นสูญหายอีก 6 เม็ด เจ้าหน้าที่จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน
พระมหาชานนท์ กุสลจิตฺโต เจ้าอาวาสวัดบุญศรีมุนีกรณ์ เปิดเผยว่า เบื้องต้นคาดว่าคนร้ายต้องการขโมยอัญมณีที่นำมาติดหลวงพ่อพระประธาน ซึ่งเป็นอัญมณีแก้วขนเหล็ก โป่งข่าม และไหมทอง ซึ่งมีสรรพคุณช่วยแก้และป้องกันเรื่องคุณไสย ทั้งนี้เชื่อว่าผู้ก่อเหตุมีความชำนาญเฉพาะด้าน เนื่องจากเตรียมเครื่องมือและสวมถุงมือเข้ามาก่อเหตุ นอกจากนี้ องค์พระประธานถูกสร้างมาจากแรงศรัทธาโดยมีมูลค่าเฉพาะองค์พระประมาณ 3 ล้านบาท ส่วนอัญมณีที่นำมาประดับนั้นรวบรวมมาจากช่างฝีมือภายในประเทศซึ่งมีมูลค่าหลายล้าน และส่วนที่หายไปมีมูลค่า 2 แสนบาท
ด้านพระฉลาดฉันทธรรมโมกล่าวว่า ขณะที่อาตมากำลังประกอบกิจของสงฆ์ช่วงเช้าตามปกติ แม่ชีได้เข้ามาแจ้งว่ามณฑปพระประธานถูกคนร้ายงัด จึงรีบมาตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณจุดเกิดเหตุและใกล้เคียงจนกระทั่งย้อนไปดูในเวลา 23.30 น. วันที่ 15 เม.ย. พบคนร้ายเพศชาย วัยกลางคน สวมหมวกผ้าปีกรอบ ไม่ใส่เสื้อ นุ่งกางเกงผ้าขาสั้น สวมรองเท้าแตะ เดินมาจากทางโรงครัวซึ่งอยู่ติดกับคลองบางบัว ก่อนมาหยุดข้างมณฑปซึ่งเป็นจุดเดียวกันกับที่พบรอยหน้าต่างถูกกรีดเป็นวงกว้าง คาดว่าคนร้ายได้ปีนตู้เก็บของขึ้นมาก่อเหตุเนื่องจากอยู่ในตำแหน่งที่ตรงกัน ก่อนจะปีนเข้ามาและนั่งก้มกราบพระประธาน จากนั้นได้ใช้เวลาก่อเหตุลักทรัพย์นานครึ่งชั่วโมง เมื่อได้ทรัพย์สินที่ต้องการจึงเลื่อนตู้กระจกครอบพระปางห้ามญาติมาหยุดอยู่ในตำแหน่งหน้าต่างที่คนร้ายปีนเข้ามาและหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว
รายงานข่าวแจ้งว่า ตั้งแต่เมื่อปี 2552 วัดบุญศรีมุนีกรณ์ ถูกคนร้ายเข้ามาก่อเหตุลักทรัพย์สินรวมทั้งหมด 13 ครั้ง พระพุทธรูปถูกขโมยไปกว่า 100 องค์ โดยเมื่อวันที่ 15 ม.ค.ที่ผ่านมา บริเวณหน้ามณฑปมีซุ้มบูชาพระประจำวันเกิด ก็ถูกคนร้ายเข้ามาขโมยถึง 2 องค์ เป็นพระประจำวันเสาร์ และวันอาทิตย์ จนเป็นเหตุให้ทางวัดต้องติดตั้งกล้องวงจรปิดเพื่อรักษาความปลอดภัยบริเวณโดยรอบ ซึ่งตั้งแต่ที่เกิดเรื่องก็ยังจับกุมคนร้ายไม่ได้เลย อย่างไรก็ตาม เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 15 เม.ย. มีผู้พบเห็นบุคคลต้องสงสัยรวม 4 คน โดยคาดว่าอาจเป็นกลุ่มคนร้ายที่เดินทางมาดูลาดเลาก่อนลงมือก่อเหตุในครั้งนี้