11 เม.ย.2560 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเเละหัวหน้าคณะรักษาความสงบเเห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีในวันนี้ โดยระบุถึงกรณี การใช้ม.44 ออกคำสั่งหัวหน้าคสช.ที่ 14/2560 ที่มีเรื่องการห้ามนั่งท้ายรถกระบะ จนเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในสังคมอย่างมาก จนทำให้ พ.ร.บ.จราจรทางบกที่ถูกแก้ไขในมาตรา 123 ไม่สามารถใช้บังคับได้ทันที รัฐบาลจึงมีให้ชะลอออกไปนั้น
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สำหรับประเด็นเรื่องการนั่งท้ายรถกระบะนั้น เป็นการเตรียมการระยะยาว ส่วนที่มีการออกมาตรการมาเเล้วก็ทำให้ทุกคนตื่นตัวเเละทำให้เห็นว่าประชาชนมีการเพิ่มความระมัดระวังกันมากขึ้น เเม้ตอนนี้จะยังใช้มาตรการไม่ได้ 100 เปอร์เซนต์เต็มก็ตาม เเต่ไม่ได้หมายความว่าจะยกเลิก เพราะยกเลิกไม่ได้ เนื่องจากเป็นกฎหมายที่ออกมากว่า 20 ปีเเล้ว ดังนั้นจึงเป็นเรื่องของการเพิ่มความเข้มงวด เพื่อให้เกิดความปลอดภัยในชีวิตเเละทรัพย์สิน เเละให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการ
"ผมเข้าใจดีความลำบาก จึงทำให้ต้องเร่งการขนส่งมวลชนมากขึ้น สร้างทางรถไฟ ซึ่งถ้าทำมานานเเล้วก็ไม่เกิดเรื่องพวกนี้ขึ้นมาหรอก นี่ต้องมาเริ่มสมัยเราหมด ทั้งทำรถไฟทางคู่ รถไฟใหม่ที่ตัดเส้นทางใหม่เพิ่มเติม ใช้เวลา 1-2 ปีไม่มีทางเสร็จ เเต่ก็เริ่มทำเเล้วไง ที่ถามว่าเมื่อไหร่คนจะได้สบายใจ ก็จะบอกว่านี่เเหละ รัฐบาลต้องใช้เวลาสร้างสาธารณูปโภคพื้นฐาน ขนส่งมวลชนให้มันดีขึ้น ระหว่างนี้คนก็ต้องปรับตัวว่า ในวันหน้าต้องมีการบังคับใช้กฎหมายนี้อย่าง 100 เปอร์เซนต์ เป็นเวลาเปลี่ยนผ่านของทั้งสองฝ่าย ต้องเห็นใจว่าเจ้าหน้าที่ละเว้นไม่ได้"
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า รับรองว่าไม่ให้ใครเดือดร้อน จะเดือดร้อนก็เดือดร้อนชีวิตตัวเอง คอยดูว่า หลังจากนี้ไปต้องลงสถิติให้ชัดเจนว่าการสูญเสียเกิดขึ้นจากสาเหตุใดบ้าง ทั้งไม่ใส่หมวกกันน็อค ขับรถความเร็วเกินกำหนด เเละดื่มสุรา แยกประเภทให้เห็นกันชัดๆ
สำหรับการใช้เข็มขัดนิรภัย ตนเห็นว่าเป็นการผ่อนหนักให้เป็นเบา จากตายก็อาจจะบาดเจ็บ บาดเจ็บมากก็เป็นบาดเจ็บน้อย เป็นมาตราการที่ออกมามาตรการหนึ่งเท่านั้น เเต่ที่สำคัญคือจิตสำนึกของคนขับขี่
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
