นายพิชิต อัคราทิตย์ รมช.คมนาคม เปิดเผยว่า กระทรวงไม่มีนโยบายปรับขึ้นอัตราค่าโดยสารใหม่ตามที่ผู้ใช้บริการและหลายๆ ฝ่ายกังวลแต่อย่างใด เนื่องจากอัตราค่าโดยสารที่ใช้ในปัจจุบันมาจากการคำนวณต้นทุนในเรื่องของราคาน้ำมัน ไม่ใช่คำนวณจากจำนวนเบาะที่นั่งที่ปรับเหลือ 13 ที่นั่ง
"ยืนยันว่าขณะนี้จะไม่มีการอนุญาตให้ปรับขึ้นค่าโดยสารรถตู้แน่นอน เนื่องจากค่าโดยสารที่ใช้อยู่ในปัจจุบันมาจากการคำนวณต้นทุนของน้ำมัน ไม่เกี่ยวกับเบาะ ที่นั่ง และผมเชื่อว่าในขณะนี้ถือเป็นเทศกาลสงกรานต์ ผู้ประกอบการน่าจะได้ประโยชน์และกำไรเพิ่มขึ้นจากจำนวนผู้โดยสารในช่วงเทศกาล" นายพิชิต กล่าว
สำหรับความคืบหน้าในการติดตั้งระบบติดตามสัญญาณดาวเทียม (จีพีเอส) ในรถตู้โดยสารสาธารณะนั้น ขณะนี้รถตู้ทุกคันที่ยังทำการวิ่งให้บริการได้ดำเนินการ ติดตั้งจีพีเอสครบหมดทุกคันไปตั้งแต่ เดือน มี.ค.แล้ว แต่ภาพรวมการติดตั้งระบบ จีพีเอสทั้งระบบ ขณะนี้อยู่ที่ 90% เนื่องจากมีรถบางส่วนได้ทำการหยุดวิ่ง จึงไม่ได้ติดตั้งระบบจีพีเอส
นอกจากนี้ยังได้กำชับให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้ง บริษัท ขนส่ง (บขส.) องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) รวมทั้ง ผู้ประกอบการรถร่วมบริการ ต้องเข้มงวดกวดขันกับพนักงานขับรถให้ปลอดจากแอลกอฮอล์ การขับรถเร็ว การโทรศัพท์ระหว่างขับ เพื่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ เพราะหากพบว่าพนักงานขับรถมีปริมาณแอลกอฮอล์เกิน 0 มิลลิกรัม จะมีการลงโทษสถานหนักถึงขั้นไล่ออก
"ผู้ขับขี่รถสาธารณะเป็นบุคคลที่ต้อง รับผิดชอบชีวิตผู้อื่นเป็นจำนวนมาก จึง จำเป็นต้องมีมาตรฐานในการขับขี่รถที่สูงกว่าผู้ขับขี่ทั่วไป การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ แม้เพียงเล็กน้อยถือเป็นเจตนาที่จะละเมิดกฎแห่งความปลอดภัย ถือเป็นความผิดสำเร็จแล้วทานดื่มสุราในขณะปฏิบัติหน้าที่และผิดกฎหมายขนส่งโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน ปรับ 2,000-1 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ" นายพิชิต กล่าว