จากมาตรการการบังคับใช้กฎหมายตาม ม.44 ฉบับที่ 14/2560 เรื่อง มาตรการเพิ่มประสิทธิภาพการบังคับใช้กฎหมายว่าด้วยการจราจรทางบก ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจทั่วประเทศดีเดย์จับปรับจริงวันนี้ ส่งผลให้ชาวบ้านซึ่งส่วนใหญ่อยู่ตามหมู่บ้านต่าง ๆ ที่เดินทางเข้ามาทำธุระในเมืองโดนจับกันเป็นจำนวนมาก เมื่อถึงด่านตรวจของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เนื่องจากชาวบ้านส่วนใหญ่เมื่อเดินทางมาที่ตัวเมือง ส่วนใหญ่จะพากันมาเป็นหมู่คณะ มาเป็นเครือญาติ จึงพากันนั่งตัวกระบะด้านท้ายรถ ส่วนรถปิคอัพคันไหนมีแค๊ป ก็จะมีผู้โดยสารนั่งในแคปด้วย
โดย นายบัณฑิต ดอนนาง อายุ 65 ปี ชาว อ.โกสุมพิสัย จ.มหาสารคาม ซึ่งขับรถยนต์กระบะแคปพาญาติพี่น้องจากหมู่บ้านเข้ามาซื้อกองบวชไปทำบุญ ปรากฏว่าถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองขอนแก่น ซึ่งตั้งด่านตรวจอยู่ที่ทางเลี่ยงเมือง บริเวณสี่แยกบ้านโนนตุ่น ต.เมืองเก่า อ.เมืองขอนแก่นจับในข้อหามีผู้โดยสารนั่งในแค๊ป และนั่งท้ายกระบะรถยนต์ โดยถูกปรับจำนวน 200 บาท โดยเป็นรายแรก
ซึ่งจากการสอบถามนายบัณฑิต คนขับรถบอกว่า ตนเองไม่รู้เรื่องที่กฎหมายที่ห้ามนั่งท้ายกระบะรถ จึงพาญาติพี่น้องมาซื้อนั่งท้ายกระบะรถเข้ามาซื้อกองบวชไปทำบุญให้ญาติ ซึ่งถ้าจะพูดถึงความปลอดภัยนั้นตนก็เห็นด้วยกับกฎหมาย แต่ว่าประชาชนเดือดร้อนแบบนี้ตนก็อยากให้ เจ้าหน้าที่อนุโลมให้ด้วย เพราะชาวบ้านที่อยู่ตามบ้านนอก ส่วนใหญ่เงินจะขึ้นรถโดยสารก็ไม่มี เมื่อมีรถเข้ามาในเมืองก็ขออาศัยกันมาหลายๆ คนพร้อมกัน เป็นการประหยัดค่าโดยสาร ซึ่งส่วนใหญ่ที่มาด้วยกันก็เป็นเครือญาติกันทั้งนั้น
ทางด้าน พ.ต.อ.นพดล เพ็ชร์สุทธิ์ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น ที่มากำกับดูแลการตั้งด่านตรวจกล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจก็รับทราบถึงความรู้สึกของชาวบ้าน แต่ตำรวจก็มีหน้าที่ที่จะต้องปฏิบัติตามกฎหมาย และเพื่อความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนเอง วันนี้ถึงแม้ว่าจะมีการตรวจจับจริง แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะปรับในขั้นต่ำ และทำความเข้าใจ เนื่องจากประชาชนบางคนก็ยังไม่ทราบกฎหมายที่ออกมาจริง ๆ ก็มี บางรายก็ว่ากล่าวตักเตือนไปก่อนก็มีแล้วแต่กรณีไป ส่วนการจับกุมในวันนี้หลังจากตั้งด่านได้ประมาณ 2 ชม.ปรากฏว่าจับกุมได้แล้วกว่า 100 ราย ซึ่งบางคันมีคนนั่งมาที่ท้ายกระบะมาเป็นจำนวนมากตนก็ให้ขึ้นรถตู้ของตำรวจพาไปส่งในตัวเมืองให้ ส่วนขากลับก็ให้ขึ้นรถโดยสารกลับแทน เพราะเกรงว่าจะโดนด่านอื่นจับอีก