เมื่อช่วงค่ำวันที่ 30 ม.ค. สถานเอกอัครราชทูตอินเดียประจำประเทศไทย ได้แจ้งว่า รัฐบาลแห่งสาธารณรัฐอินเดียได้ประกาศทูลเกล้าฯ ถวายรางวัล "ปัทมา ภูชาน" รางวัลสำหรับพลเรือนที่สูงที่สุดรางวัลหนึ่งของอินเดีย แด่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี เนื่องในโอกาสครบรอบวันสถาปนาสาธารณรัฐอินเดีย ครั้งที่68 เมื่อวันที่ 26 มกราคม 2560 และในวันที่ 30 - 31 มีนาคม 2560 นี้ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี จะเสด็จพระราชดำเนินเยือนสาธารณรัฐอินเดีย เพื่อจะทรงรับการทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเครื่องอิสริยาภรณ์ ดังกล่าว
พระองค์ทรงให้การ สนับสนุนด้านวรรณกรรมและการศึกษา โดยรางวัล "ปัทมา ภูชาน" นี้ทางการจะมอบให้กับผู้ที่มีผลงานโดดเด่นและก่อประโยชน์สูงสุด
ทั้งนี้สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเป็นบุคคลต่างชาติเพียงคนเดียวที่ได้รับรางวัลนี้ ในปีนี้ โดยก่อนหน้านี้ในช่วง 35 ปีที่ผ่านมา คนที่ได้รับรางวัล "ปัทมา ภูชาน" ที่จัดมอบโดยประธานาธิบดี อินเดีย ในงานพิธีที่จัดขึ้น ณ ทำเนียบประธานาธิบดีในกรุงนิวเตลี ประมาณเดือนมีนาคม/เมษายนของทุกปี
ประกาศสำนักพระราชวัง
ด้วยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี จะเสด็จพระราชดำเนินเยือนสาธารณรัฐอินเดีย ในวันที่ ๓๐ และ ๓๑ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๖๐ ในการเสด็จพระราชดำเนินเยือนครั้งนี้ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี จะทรงรับการทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเครื่องอิสริยาภรณ์ปัทมภูษัณ ประจำปี ๒๕๖๐ ซึ่งรัฐบาลสาธารณรัฐอินเดียขอพระราชทานทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายในฐานะที่ทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจในด้านวรรณกรรมและการศึกษา อันเป็นคุณประโยชน์อย่างยิ่งแก่ประเทศและประชาชน ทั้งนี้ มีผู้ได้รับเครื่องอิสริยาภรณ์ปัทมภูษัณ จำนวน ๗ คน โดยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเป็นชาวต่างประเทศเพียงพระองค์เดียวที่ทรงได้รับเครื่องอิสริยาภรณ์ดังกล่าว
สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี จะประทับเครื่องบินของบริษัท การบินไทย จำกัด มหาชน เที่ยวบินที่ ทีจี ๓๒๓ เสด็จพระราชดำเนินจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จังหวัดสมุทรปราการ ในวันพฤหัสบดีที่ ๓๐ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๖๐ เวลา ๐๗.๓๕ น. และจะประทับเครื่องบินของบริษัท การบินไทย จำกัด มหาชน เที่ยวบินที่ ทีจี ๓๑๖ เสด็จพระราชดำเนินกลับถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จังหวัดสมุทรปราการ ในวันศุกร์ ที่ ๓๑ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๖๐ เวลา ๐๕.๒๕ น.
จึงขอประกาศให้ทราบโดยทั่วกัน
สำนักพระราชวัง
๒๙ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๖๐