พ.อ.หญิงศิริจันทร์ กล่าวว่า สำหรับส่วนนิสิต/นักศึกษา หรือผู้ที่จะขอผ่อนผันก็ให้ไปแสดงตนต่อคณะกรรมการตรวจเลือกด้วยเช่นกัน สำหรับผู้ที่มีเหตุสุดวิสัยหรือเจ็บป่วยกระทันหัน และไม่สามารถไปแสดงตนต่อคณะกรรมการตรวจเลือกฯ ตามหมายนัดได้ ให้แจ้งฝ่ายปกครองท้องถิ่น หรือส่งผู้แทนเข้าแจ้งต่อคณะกรรมการตรวจเลือกทันที ส่วนผู้ที่ต้องการสมัครเป็นทหารก็ให้แจ้งความประสงค์กับคณะกรรมการตั้งแต่การเริ่มต้นเข้ารายงานตัวในวันตรวจเลือก โดยในปี 2559 ที่ผ่านมา มีชายไทยร้องขอ/สมัครเป็นทหารกองประจำการสูงถึงร้อยละ 46
ชายไทย เตรียมวัดดวงเกณฑ์ทหาร 1-12 เม.ย.นี้
พ.อ.หญิงศิริจันทร์ กล่าวว่า โดยในปีนี้ กองทัพบกจะทำการตรวจเลือกทหารพร้อมกันในพื้นที่ 77 จังหวัด 928 อำเภอ โดยจัดคณะกรรมการตรวจเลือก 153 คณะ พร้อมกับได้นำคอมพิวเตอร์มาใช้ในการรายงานผลการตรวจเลือก รวมทั้งใช้ในการตรวจสอบและยืนยันตัวบุคคลที่จะเข้ารับการตรวจเลือกทหารกองประจำการ เพื่อป้องกันการปลอมตนเข้ามาตรวจเลือกทหารแทน และตั้งแต่ปี 2556 กองทัพบกได้จัดส่งข้อมูลผลการตรวจเลือกให้กับกระทรวงมหาดไทย เพื่อบันทึกลงในบัตรประจำตัวประชาชนแบบสมาร์ทการ์ดด้วย
พ.อ.หญิงศิริจันทร์ กล่าวว่า อย่างไรก็ตามขอย้ำว่าใบรับรองผลการตรวจเลือก (สด.43) จะต้องได้รับจากประธานกรรมการตรวจเลือกฯ ในวันตรวจเลือกเท่านั้น หากได้รับจากบุคคลอื่นหรือวันอื่นถือว่าไม่ใช่เอกสารที่ทางราชการออกให้ ไม่สามารถนำไปแสดงในการสมัครงานหรือใช้ในกรณีอื่นได้ รวมทั้งขอแจ้งเตือนผู้เข้ารับการตรวจเลือกว่าอย่าหลงเชื่อการแอบอ้างหรือหลอกลวงจากบุคคลใดว่าสามารถช่วยให้เป็นทหารหรือช่วยให้ไม่เป็นทหารได้ ขอยืนยันว่ากองทัพดำเนินการคัดเลือกบุคคลให้เป็นทหาร ตามคุณสมบัติและเป็นไปตาม พ.ร.บ.รับราชการทหาร พ.ศ.2497 หากพบเห็นพฤติกรรมต้องสงสัยสามารถแจ้งได้ที่ กองการสัสดี หน่วยบัญชาการรักษาดินแดน เลขที่ 2 ถนนเจริญกรุง เขตพระนคร กทม. 10200โทร 0 - 2223 - 3259 หรือ www.tdc.mi.th, www.sussadee.com
พ.อ.หญิงศิริจันทร์ กล่าวว่า ผู้ที่จะต้องเข้ารับการตรวจเลือกทหารกองประจำการในปีนี้ ได้แก่ ผู้ที่เกิด พ.ศ.2539 (อายุ 21 ปีบริบูรณ์) กับผู้ที่เกิด พ.ศ.2531 - 2538 (อายุ 22 - 29 ปีบริบูรณ์ เฉพาะคนที่ยังไม่เคยเข้ารับการตรวจเลือก) โดยกองทัพมีความต้องการชายไทยเข้าเป็นทหารกองประจำการ จำนวน 103,097 นาย แยกเป็นกองทัพบก 76,953นาย กองทัพเรือ 16,000 นาย กองทัพอากาศ 8,420 นาย กองบัญชาการทหารสูงสุด 1,179 นาย และสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม 551 นาย.