สำนักข่าวรอยเตอร์ ได้รายงานข่าว เร็กซ์ ทิลเลอร์สัน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าวที่เกาหลีใต้ว่า การใช้กำลังทหารจัดการเกาหลีเหนือ ประเทศที่มีอาวุธนิวเคลียร์ เป็นทางเลือกหนึ่งที่อยู่บนโต๊ะ หากภัยคุกคามยังเกิดขึ้นต่อเนื่อง ดูเหมือนจะเป็นการส่งสัญญาณจากสหรัฐฯ ไปยังเกาหลีเหนือ หลังจากเกาหลีเหนือทดสอบยิงขีปนาวุธเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยระบุว่าเป็นฝึกซ้อมโจมตีฐานทัพสหรัฐฯในประเทศญี่ปุ่น โดยรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ยังได้กล่าวย้ำว่า นโยบายความอดทนทางยุทธศาสตร์ ของสหรัฐต่อเกาหลีเหนือ ซึ่งเป็นจุดยืนของรัฐบาลชุดเก่าภายใต้การนำของประธานาธิบดีบารัค โอบามา สิ้นสุดลงแล้ว
ภายใต้นโยบายดังกล่าว สหรัฐฯ จะไม่ใช้กำลังทหารกับเกาหลีเหนือ จนกว่าเกาหลีเหนือจะแสดงให้เห็นชัดถึงการปลดอาวุธนิวเคลียร์ และหวังว่าความกดดันภายในประเทศที่ถูกโดดเดี่ยวจะทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงปัจจุบันกองทัพสหรัฐฯ มีทหาร 28,000 นาย ประจำการอยู่ในเกาหลีใต้ เพื่อช่วยป้องกันภัยคุกคามจากเกาหลีเหนือ แต่กรุงโซล เมืองหลวงเกาหลีใต้ อยู่ในระยะยิงถึงของกระสุนปืนใหญ่ของเกาหลีเหนือ และบรรดานักวิเคราะห์เชื่อว่า ความขัดแย้งใดๆ เสี่ยงต่อการลุกลามรวดเร็วและเกิดความสูญเสียมหาศาล
ขณะที่ทางด้าน ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้กล่าวว่า พฤติกรรมของเกาหลีเหนือเลวร้ายอย่างยิ่งและจีนแทบไม่ช่วยอะไรเลย ซึ่งการให้ข้อมูลดังกล่าวนั้น เพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจาก เร็กซ์ ทิลเลอร์สัน รัฐมนตรีต่างประเทศประกาศว่านโยบายอดทนกับเกาหลีเหนือสิ้นสุดลงแล้วและบ่งชี้ว่าอาจตัดสินใจใช้ปฏิบัติการทางทหารชิงลงมือก่อนรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ยังเรียกร้องจีน บังคับใช้มาตรการคว่ำบาตรกับเกาหลีเหนือ และบอกว่าไม่มีความจำเป็นที่จีนจะลงโทษเกาหลีใต้ต่อกรณีประจำการระบบต่อต้านขีปนาวุธล้ำสมัยของสหรัฐฯ เนื่องจากมันมีเป้าหมายปกป้องตนเองจากเกาหลีเหนือ
จีนมองว่าระบบป้องกันขีปนาวุธในบรรยากาศชั้นสูง (Terminal High Altitude Area Defense - THAAD) เป็นภัยคุกคามความมั่นคงของพวกเขา