โดยจากกรณีที่ได้มีการแชร์คลิปจาก เฟซบุ๊ก ไชยยศ ไชยพฤกษ์ โดยในคลิปจะเห็นว่าเจ้าของเฟซบุ๊กได้เข้าไปหาข้าราชการรายหนึ่ง แต่กลับพบว่าที่ห้องของข้าราชการดังกล่าวมีขวดสุราวางอยู่ เมื่อสอบถามข้าราชการรายนี้ก็บอกว่า กินเหล้าในห้องจริง แต่เป็นการติดลมบนมาจากการกินข้าวข้างนอก นอกจากนี้ยังพบกับแกล้มวางอยู่บนโต๊ะอีกด้วย อย่างไรก็ดี เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 13 มีนาคม ที่ผ่านมา โดยข้อความทั้งหมด มีดังต่อไปนี้
เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 14.30 น. วันที่ 13 มีนาคม 2560 ขณะที่ตนมีความประสงค์เข้าพบข้าราชการรายหนึ่งในท้องถิ่นอำเภออาจสามารถ กรณีนิติกร อบต.โหรา โดนกลั่นแกล้งจากนักการเมืองคนหนึ่ง โดยตนเป็นพยานฝ่ายนิติกร ซึ่งข้าราชการรายนี้ได้อ้างกับนิติกรท่านนี้ว่า "การสอบสวนข้อเท็จจริง มีการสอบปากคำพยานทุกปากแล้ว และได้สรุปสำนวนการสอบสวนแล้ว" ตนในฐานะพยานก็ไม่พอใจ เนื่องจากพยานปากเอกของคดีนี้คือตน ดังนั้นเมื่อยังไม่มีการสอบปากคำตน จะไปสรุปสำนวนได้อย่างไร สิ่งที่ตนพบเจอ ก็ตามคลิปนั่นแหละครับโดยในเวลาต่อมาหลังจากที่คลิปได้แพร่กระจายออกไปในโลกโซเซี่ยลนั้นล่าสุดปรากฏว่าวันนี้ 16 มี.ค. 60 นายสฤษดิ์ วิฑูรย์ ผวจ.ร้อยเอ็ด ได้เดินทางไปที่สวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ เป็นประธานปล่อยมอบน้ำดื่ม ให้กับขบวนรถประชาชน 3 อำเภอคือ อ.โพนทอง ,เมยวดี,และหนองพอก 750 คน ขึ้นรถ 16 คันเดินทางไปเคาระพระบรมศพ ร.9 ที่กทม. ซึ่งในระหว่างที่รอความพร้อมของทุกฝ่าย ก่อนออกเดินทาง ผวจ.ร้อยเอ็ด ได้เรียกท้องถิ่นจังหวัด มาสอบถามข้อเท็จจริง กรณีที่นายกเทศมนตรีคนหนึ่งในเขต อ.ธวัชบุรี โพสต์คลิป 4 คลิปกล่าวหาว่า ขณะที่เดินทางไปติดต่อราชการที่ที่ว่าการอำเภออาจสามารถ
ปรากฏว่าพบ นายไพบูลย์ สงค์จันทร์ ท้องถิ่นอาจสามารถ กำลังนั่งในห้อง พร้อมกับบนเหล้าและกับแกล้มวางบนโต๊ะในห้องทำงาน และกล่าวหาว่าทำมิชอบ ในการนั่งดื่มสุรา ในห้องทำงานในสถานที่ราชการ ตามที่มีการแชร์กัน ซึ่งท้องถิ่นจังหวัดกล่าวว่า ตอนนี้อยู่ในระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริง ทั้งหมดว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร
และหลังจากได้รีบรายงานข้อเท็จจริง นายสฤษดิ์ วิฑูรย์ เปิดเผยว่า ตนเองได้ออกคำสั่งให้ทางท้องถิ่นจังหวัดทำหนังสือด่วนในวันนี้ สั่งการให้ย้ายท้องถิ่นอำเภอที่ปรากฏในภาพ เข้ามาประจำที่ศาลากลางจังหวัดร้อยเอ็ด ตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป พร้อมกับให้มีการตั้งกรรมการสอบสวนเอาผิด และตรวจสอบข้อเท็จจริง ว่ามีการดื่มสุราในที่ทำงานและสถานราชการจริงหรือไม่ และตรวจสอบลงลึกว่าเพียงแต่ดื่มสุราจากที่อื่นแล้วถือกลับมาหรืออย่างไร เพื่อให้ทราบข้อเท็จจริงว่าเกิดอะไรขึ้นอย่างไรยังไง
อย่างไรก็ตามก็จะต้องเอาผิดสถานแรกก่อนที่นำสุรามาบนสถานที่ราชการ หรือแม้แต่ดื่มมาจากที่อื่นก็อาจจะข่ายมีถือว่าเป็นความผิด เพราะการดื่มสุราในเวลาราชการ ก็ถือว่าเป็นความผิด
ทั้งนี้ การตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงดังกล่าวก็จะตรวจสอบข้อเท็จจริงในทุกด้าน และให้ความถูกต้อง และต้องให้ความเป็นกับผู้ถูกกล่าวหาด้วย เพราะทุกอย่างกรรมการสอบสวนจะต้องสอบสวนให้ได้ข้อเท็จจริง เพื่อป้องกันการเกิดการกลั่นแกล้งกัน หรือมีเบื้องหลังอย่างไรหรือไม่ด้วย
โดนหลังจากที่มีการสั่งย้ายข้าราชการคนดังกล่าวออกไปนั้น เพจเฟซบุ๊คอย่างPitbullzone ก็ได้ออกมาตั้งข้อสังเกตุอย่างน่าสนใจโดยระบุว่า ประชาชน ตกเป็นผู้ต้องหา โดนจับกุม ใส่กุญแจมือ ยัดเข้าห้องขัง .. หากอยากมีอิสระชั่วคราวระหว่างรอการสอบสวน พอจารณาคดี ต้องใช้หลักทรัพย์ประกันตัว
แต่ข้าราชการ ทำผิดชัดเจน ส่วนมากก็เจอแค่คำสั่งย้าย แต่ย้ายจริงหรือเปล่าไม่ค่อยมีใครตามหรอก อาจจะทำงานอยู่ที่เดิมก็ได้ครับ คำว่าย้ายมันพูดง่าย แต่ในทางปฏิบัติแล้วทำยาก เพราะการสั่งให้ข้าราชการออกนอกพื้นที่ มันต้องมีค่าใช้จ่าย ทั้งค่าเดินทาง ค่ากิน ค่าที่พัก ... ซึ่งใครจะเป็นคนจ่าย !!
หยุด การแหกตาประชาชนเถอะครับ !!