หนีตายอลหม่าน!!! หอพักหน้ารามทรุดระทึกเจ็บ 2 ได้ยินเสียงปูนลั่น ดังสนั่นน่ากลัว

หนีตายอลหม่าน!!! หอพักหน้ารามทรุดระทึกเจ็บ 2 ได้ยินเสียงปูนลั่น ดังสนั่นน่ากลัว

หนีระทึก ตึก 2 ชั้นในซอยราม คำแหง 39 ทรุดตัวจมลึก 1เมตร ผู้พักอาศัยเผ่นหนีตายอลม่าน พยานเผยได้ยินเสียงปูนลั่น ดังสนั่นน่ากลัว ก่อนท่อประปาแตก จากนั้นทั้งตึกก็เอียงทรุดอย่างรวดเร็ว นายกวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย รุดตรวจสอบ พบตึกสร้างมา 20 ปีแล้ว โดยด้านล่างเป็นบนดินอ่อน ชี้อาจมีความบกพร่องของเสาเข็มและเสาตอม่อ สั่งปิดห้ามเข้าอาคาร จนกว่าจะตรวจสอบ จนแน่ใจว่าหยุดทรุดแล้ว ขณะที่กทม.เร่งเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ

เมื่อวันที่ 15 มี.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกิดเหตุอาคารทรุดภายในซอยรามคำแหง 39 แยก 23 ถนนรามคำแหง แขวงพลับพลา เขตวัง ทองหลาง กทม. โดยเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อ เวลา 22.20 น. ของคืนวันที่ 14 มี.ค. โดยพ.ต.ต. สวิด แก้วปลั่ง สว.(สอบสวน) สน.วังทองหลาง รับแจ้งเหตุอาคารทรุดตัว ภายในซอยราม คำแหง 39 แยก 23 จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบก่อนรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วยพล.ต.ต.นันทชาติ ศุภมงคล ผบก.น.4 พ.ต.อ. ธรรมนูญ บุญเรือง ผกก.สน.วังทองหลาง นางจิตรลดา ถนอมศักดิ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเขตวังทองหลาง เจ้าหน้าที่สำนักป้องกัน และบรรเทาสาธารณภัยกรุงเทพมหานคร เจ้าหน้าที่สำนักการโยธากรุงเทพมหานคร และมูลนิธิร่วมกตัญญู

ในที่เกิดเหตุเป็นอาคารแบ่งให้เช่า เลขที่ 557 สูง 2 ชั้น มีทั้งหมด 20 ห้อง ชั้นละ 10 ห้อง พบอาคารทรุดตัวลงมาประมาณ 1 เมตร ส่งผลให้กันสาดพังถล่มลงมา และคอนกรีตร่วงหล่นลงมาเป็นระยะๆ นอกจากนี้มีไฟฟ้าลัด วงจรที่หม้อแปลงไฟ มีประกายไฟเป็น ระยะๆ เจ้าหน้าที่จึงประสานการไฟฟ้าตัดกระแสไฟอย่างเร่งด่วน เนื่องจากเกรงว่าจะเกิดอันตราย พร้อมปิดกั้นตัวอาคารไม่ให้ผู้ใดเข้าไป เบื้องต้นพบผู้บาดเจ็บเล็กน้อย 2 ราย ทราบชื่อต่อมานายสมชาย หนองเส อายุ 46 ปี และนายนนท์ประวิทย์ จันริสา อายุ 30 ปี มีแผลถลอกตามร่างกาย แต่ไม่ประสงค์ไปโรงพยาบาล

ด้านนางจิตรลดา กล่าวว่าจากการสอบถามข้อมูลทราบว่าอาคารแห่งนี้สร้างขึ้นมาในท้องนาเก่ามานานกว่า 20 ปี มีนางอารีย์ แซ่โง้ว อายุ 57 ปี เป็นเจ้าของ โดยสาเหตุคาดว่าน่าเกิดจากดินทรุดตัว ส่วนอาคารจะต่อเติมหรือไม่ ต้องให้ทางเจ้าหน้าที่มาตรวจอย่างละเอียดครั้ง ขณะที่ผู้พักอาศัยที่ได้รับผลกระทบอยู่ระหว่างการพิจารณาให้ความช่วยเหลือเรื่องที่พักแห่งใหม่ เบื้องต้นได้ประกาศเป็นพื้นที่หวงห้ามและจะให้กรมโยธาฯ เข้าตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง

ขณะที่พล.ต.ต.นันทชาติเปิดเผยว่าต้องรอผลจากผู้เชี่ยวชาญเข้ามาตรวจสอบหาสาเหตุที่แท้จริง ว่าเกิดจากสาเหตุใด ทั้งนี้ภายในอาคารดังกล่าวมีผู้พักอาศัยทั้งหมด 33 คน ขณะนี้มีผู้ไม่มีที่พักอาศัยจำนวน 19 คน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะดูแลโดยให้ไปพักที่บ้านพักตำรวจ 10 คน และที่พักของชุมชนอีก 9 คน ขณะเดียวกันทางสำนักงานเขตวัง ทองหลาง จะประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของผู้พักอาศัยทั้งหมดต่อไปต่อมาเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 15 มี.ค. เจ้าหน้าที่สํานักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ พร้อมเจ้าหน้าที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยของสำนักเขตวังทองหลาง เจ้าหน้าที่ตำรวจสน.วังทองหลาง มาตั้งกองอำนวยการช่วยเหลือผู้ที่ประสบภัย พร้อมทั้งมีการมอบเครื่องอุปโภคบริโภคกับชาวบ้านที่ประสบภัย

ด้านนายนนท์ประวิทย์ จันริสา อายุ 30 ปี พนักงานบริษัท โอสถสภา จำกัด ผู้พักอาศัย เปิดเผยว่า ตนอาศัยอยู่ที่อาคารดังกล่าวมาประมาณ 2 ปี ก่อนเกิดเหตุเมื่อเวลาประมาณ 20.00 น. ตนได้ยินเสียงปูนลั่นจึงเรียกเพื่อนข้างห้องมาดูพร้อมกับพูดคุยกันว่ากลัวอาคารจะถล่ม จึงไปตามเจ้าของอาคารมาดู เมื่อมาดูเจ้าของอาคารบอกว่ายังอยู่ได้ พวกตนจึงเข้าไปพักผ่อนต่อ ต่อมาเวลาประมาณ 21.50 น. ได้ยินเสียงปูนลั่นอีกครั้งเสียงดังมากพร้อมกับท่อประปาแตก จากนั้นอาคารก็ทรุดตัวลงอย่างรวดเร็ว จึงรีบวิ่งหนีตายออกมาจากตัวอาคาร ทำให้ได้รับบาดเจ็บข้อเท้าขวาเคล็ด หัวเข่าซ้ายเป็นแผลถลอก ซึ่งก่อนหน้านี้เพื่อนบ้านเล่าให้ฟังว่าอาคารมีอาการพื้นลั่นอยู่เรื่อยๆ แต่ไม่มาก มีรอยร้าวตามกำแพง แต่ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุถล่มลงมาอย่างรวดเร็วอย่างนี้

นางปาลิดา ว่องวิชญกร กรรมการชุมชนทรัพย์สินใหม่ กล่าวว่า พื้นที่บริเวณนี้เป็นพื้นที่ของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ที่ชาวบ้านเข้ามาเช่าที่ปลูกบ้านเพื่ออยู่อาศัย ส่วนอาคารหลังเกิดเหตุนั้นถูกสร้างขึ้นมามากกว่า 20 ปี ก่อนหน้านี้ประมาณ 1 เดือน เกิดการทรุดตัวเพียงเล็กน้อยทำให้ท่อน้ำประปาแตก เจ้าของอาคารจึงให้ช่างมาซ่อมท่อ ต่อมาก็มีอาการพื้นลั่นมาเรื่อยๆ แต่เกิดขึ้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้นจึงไม่ค่อยมีใครสนใจ ทั้งนี้อาคารหลังดังกล่าวสร้างบนที่ดินซึ่งเคยเป็นท้องนาและบึงเก่า ที่ดินตรงนี้เป็นดินอ่อนจึงอาจจะทำให้เกิดอาคารทรุดได้ เพราะบ้านตนที่ปลูกไว้ก็มีลักษณะเอียงเช่นเดียวกัน

ต่อมานายยุทธพันธุ์ มีชัย เลขานุการผู้ว่าฯกทม. และดร.ธเนศ วีระศิริ นายกวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย เดินทางเข้าตรวจสอบอาคารหลังเกิดเหตุ

ทางด้าน ดร.ธเนศ เปิดเผยหลังจากการตรวจสอบอาคารดังกล่าวในเบื้องต้น ว่า อาคาร ดังกล่าวถูกสร้างแบบคอนกรีตเสริม เหล็ก 2 ชั้น และได้ทรุดตัวลงไปด้านขวาของอาคารลึกลงไปกว่า 1 เมตร และลาดเอียงไปทางซ้ายลึกเกือบ 2 เมตร ซึ่งการทรุดตัวในลักษณะนี้อาจมีความบกพร่องของเสาเข็มและเสาตอม่อซึ่งเป็นฐานราก การทรุดตัวของอาคารในลักษณะนี้อาคารจะยังทรุดตัวลงไปเรื่อยจน กว่าจะถึงจุดหนึ่งจะชะลอตัวลง ซึ่งขึ้นอยู่กับแรงดันของพื้นดินด้านล่าง ทั้งนี้อาคารหลัง ดังกล่าวมีรอยแตกร้าวจากด้านขวาซึ่งแสดงให้เห็นว่าก่อนหน้านี้อาคารมีการทรุดตัวจากทางด้านซ้ายลงไปก่อนสักระยะหนึ่งแล้ว แต่หลายคนอาจจะไม่ทราบ อย่างไรก็ตามจะขอเวลาในการตรวจสอบเบื้องต้นอย่างน้อย 3 ช.ม. เพื่อดูว่าอาคารมีการทรุดตัวอย่างต่อเนื่องหรือไม่ ทั้งนี้ต้องขอปิดพื้นที่ดังกล่าวไว้เป็นพื้นที่อันตรายห้ามใครเข้าจนกว่าจะตรวจสอบได้ว่าอาคารชะลอการทรุดตัวแล้ว จึงจะให้ผู้อยู่อาศัยเข้าไปขนทรัพย์สินได้

 


เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์