จากกรณีการประชุมประเมินสถานการณ์วัดพระธรรมกาย พันตำรวจตรี วรณัน ศรีล้ำ รองโฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ได้ออกมาเปิดเผยว่า ได้มีการเพิ่มชุดทำงานจาก 3 หน่วยงานเป็น 4 หน่วยงาน คือ ตำรวจภูธรจังหวัดปทุมธานี สำนักพุทธศาสนาจังหวัดปทุมธานี เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี รวมถึงได้มีการแต่งตั้งผู้ว่าราชการจังหวัดเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชุดทำงาน ทั้งนี้ ได้แจ้งข้อกล่าวหานางสาวลีลาวดี วัชโรบล ลูกศิษย์วัดพระธรรมกาย ที่กองบังคับการปราบปรามเพิ่มอีก 1 คดี ในความผิดตามมาตรา 116 ในขณะที่การดำเนินคดีที่เกี่ยวข้อง มีทั้งหมด 46 คดี เป็นคดีในความรับผิดชอบของกองปราบ 4 คดี สภ.คลองหลวง 28 คดี และ สภ.คลองห้า อีก 14 คดี
ก่อนหน้านี้น.ส. ลีลาวดี ได้เป็นตัวแทนวัดและมูลนิธิวัดพระธรรมกาย เข้ายื่นหนังสือถึงพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ผ่านศูนย์บริการประชาชนประจำทำเนียบรัฐบาล เรียกร้องให้ยกเลิกคำสั่งมาตรา 44 เพราะหมดความชอบธรรมในการขอหมายค้นตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ. ที่ผ่านมา ซึ่งวัตถุประสงค์ของการออกมาตรา 44 เพื่อจับกุมตัวพระธัมมชโยแต่เมื่อไม่พบตัวพระธัมมชโย จึงไม่มีเหตุผลที่จะใช้ มาตรา 44 ควบคุมพื้นที่วัดพระธรรมกายต่อไป นอกจากนี้ยังละเมิดสิทธิมนุษยชนทำให้พระลูกวัดและประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากการเข้าออก และถูกตรวจค้น ทำให้เกิดความหวาดกลัวจนไม่กล้าออกมานอกพื้นที่ รวมถึงส่งผลให้ขาดแคลนอาหารจากคำสั่งห้ามนำอาหารเข้าไปในพื้นที่ควบคุม
" พระต่อสู้ด้วยมือเปล่า และถูกห้ามไม่ให้สวดมนต์ รวมถึงเกิดความหิว เพราะข้าวหนึ่งห่อพระจะต้องฉันท์ถึง 2 รูป ส่วนตัวมองว่าสิ่งดังกล่าวเป็นเรื่องน่าอายกับสิ่งที่เกิดกับชาวพุทธ ที่ต้องตอบคำถามกับภาพที่ถูกเผยแพร่ไปยังสายตาชาวพุทธทั่วโลก ดังนั้นจึงมาขออ้อนวอนให้นายกรัฐมนตรียกเลิกคำสั่งมาตรา 44 โดยให้ยึดตามกฎหมายเพื่อเห็นแก่ชาวพุทธ และขอทวงคืนวัดพระธรรมกายคืนให้ศาสนาพุทธ พร้อมขู่หากไม่ยกเลิก มาตรา44 ศิษยานุศิษย์และพระอาจจะหมดความอดทน แต่ไม่บอกว่าจะยกระดับการเคลื่อนไหวอย่างไร " น.ส.ลีลาวดี กล่าว