เรียกได้ว่าถือเป็นคำถามในใจกับคนที่พบเห็นสิ่งที่ธรรมกายนั้นเคยทำ อย่างเช่นทำไมต้องมีการปูพรมแดงโรยดอกไม้ตามทางในแต่ละครั้งก็ส้รางความเดือดร้อนให้ประชาชนที่ต้องเดินทางในบริเวณนั้นก็ทำให้เกิดความไม่พอใจเกิดขึ้นอีกอย่างหนึ่งที่ติดในใจคนไทยนั้นก็คือการที่มีแต่งตัวในชุดที่เรียกว่า ชุดมหาลดาปสาธน์ ในงานทอดกฐินวัดพระธรรมกายถือเป็นชุดที่สร้างกระแสการพูดถึงมากที่สุดชุดหนึ่ง วัดธรรมกายเชื่อว่าเครื่องประดับมหาลดาปสาธน์เป็นเหมือนดังชุดตัวอย่างของนางวิสาขามหาอุบาสิกาในครั้งพุทธกาลเครื่องประดับมหาลดาปสาธน์ เป็นเครื่องประดับรูปนกยูง ที่มีนกยูงสถิตอยู่บนศีรษะ เหมือนยืนรำแพนและมีขนปีกทิ้งลงมาคลุมไปจนถึงหลังเท้า ประกอบด้วยเพชร 4 ทะนาน แก้วมุกดา 11 ทะนาน แก้วประพาฬ 20 ทะนาน แก้วมณี 33 ทะนาน ใช้เงินแทนด้าย ลูกดุมทำด้วยทอง มีมูลค่าถึง 90 ล้านกหาปณะ คิดเป็นมูลค่าเงินปัจจุบันหลายพันล้านบาทผู้ที่จะใช้เครื่องประดับมหาลดาปสาธน์ซึ่งมีน้ำหนักมากนี้ได้ นอกจากมีทรัพย์มากแล้ว ยังต้องมีบุญด้วย เหมือนนางวิสาขาที่มีกำลังเท่ากับช้าง 5 เชือกจุดประสงค์ที่วัดพระธรรมกายสร้างเครื่องประดับมหาลดาปสาธน์จำลองนั้น ก็เพื่อสาธิตให้ประชาชนได้เห็นอานิสงส์การถวายผ้าไตรจีวรในวันทอดกฐิน และเป็นพุทธศิลป์ที่งดงาม
และทีนี้เราจะพามาชม 9 สาวงามมีบุญ ตามวิถีคติของวัดพระธรรมกาย จนมีโอกาสได้ใส่ชุดมหาลดาปสาธน์ ซึ่งภายในเว็บไซต์ของวัดได้นำเสนอเอาไว้ เริ่มจากคนแรก ผู้สวมชุดมหาลดาปสาธน์ ประจำปี พ.ศ. 2548 จนถึงคนสุดท้าย ปี พ.ศ. 2557
โดยเมื่อวานที่ผ่านมานั้นในรายการต่างคนต่างคิดนั้น ก็ได้มีการดีเบตกันระหว่าง อัยย์ เพชรทอง ลูกศิษย์ของวัดธรรมกาย กับนักวิชาการท่านหนึ่งที่ชื่อว่า ผศ.วันวิชิต บุญโปร่ง โดยอาจารย์วันวิชิตนั้นก็ได้ย้อนถาม นายอัยย์ระหว่างช่วงพักเบรคว่าเงื่อนไขอะไรที่วัดธรรมกายนั้นต้องมีการปูพรมแดงและแต่ตัวเหมือนคลีโอพัตรา รายละเอยีดทั้งหมดอยู่ในคลิป