กลายเป็นความคาราคาซังที่ยังไม่รู้ว่าจะจบลงแบบไหน กับสิ่งที่เกิดขึ้นกับวัดธรรมกายและการปฏิบัติหน้าที่ของดีเอสไอ เพื่อให้เป็นไปตามคำสั่งศาลในการเข้าค้นและติดตามจับกุมตัวพระธัมมชโยมาดำเนินคดีในหลายข้อหา เนื่องจากพระลูกศิษย์ใช้วิธีการปลุกระดมมวลชนรวมถึงพระสงฆ์และเณรมาต่อต้านการทำงานของเจ้าหน้าที่ในทุกรูปแบบ
(1) เจ้าหน้าที่เข้ามาอาคาร 60 ปี โดยพลการ
ภาพจากกล้องวงจรปิด พบเจ้าหน้าที่สวมเครื่องแบบ DSI มุ่งตรงไปอาคาร 60 ปี วัดพระธรรมกาย ทำทีท่ากำลังดึงสายสัญญาณกล้อง CCTV ออก และจับกุมพนักงานรักษาความปลอดภัยของทางวัดไป คำถามคือเจ้าหน้าที่ DSI ต้องการทำอะไร?(2) บุคคลไม่ระบุว่าเป็นใคร มาพร้อมใบกระท่อม ที่ประตู 7 ข้อน่าสังสย คือ
1.ผู้รับเหมาและคนงานก่อสร้าง หยุดงานตั้งแต่วันที่ 16 ก.พ. ที่ผ่านมา ไม่มีใครเข้ามาทำงาน บุคคลดังกล่าว จึงไม่ได้เกี่ยวข้องกับวัดพระธรรมกาย
2.สถานการณ์ที่มีการ #ปิดล้อมวัด ทั้งทหาร ตำรวจ dsi ใครจะซื่อ ถือใบกระท่อม เข้ามาให้เจ้าหน้าที่ตรวจ
(3) กรณีเรื่องอาหาร ได้รับข้อมูลว่า ข้าวกล่องมื้อเที่ยงที่ได้รับจากเจ้าหน้าที่ ประตู 7 วันที่ 28 ก.พ. 2560 เวลา 10.00 น. จำนวน 300 กล่อง บูดเสียทั้งหมด ไม่สามารถนำมาขบฉันหรือรับประทานได้เลย ที่สำคัญ !!! พระและศิษย์ในวัดมีประมาณ 10,000 คน แต่ส่งมา 300 กล่อง ย่อมไม่เพียงพอแต่การขบฉันและบริโภค ท่านทั้งหลาย แม้ในสงครามโลก องค์การสหประชาชาติ (UN) ยังห้ามไม่ให้มีการปิดกั้นการลำเลียงอาหารต่อพลเมืองผู้บริสุทธิ์ เพราะเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานอย่างร้ายแรง ดังตัวอย่าง ในสงครามกลางเมืองของซีเรีย มีการล้อมเมืองอเล็ปโป และจะมีตัดเสบียงอาหารเพื่อให้ทหารข้าศึกและประชาชนในเมืองหิวโหย จะได้ยอมจำนน แต่ UN ได้มีคำสั่งห้ามไม่ให้ทำ จะรบก็รบกันไป แต่จะปิดกั้นเสบียงอาหารไม่ได้ !!! แต่กรณีของวัดพระธรรมกาย เราไม่ได้รบกับเจ้าหน้าที่ แค่รักษาสิทธิของตนเอง(4) การข่าวของรัฐบาลผิดพลาดอย่างร้ายแรง โดยขอตั้งข้อสังเกตว่า กุนซือเจ้าหน้าที่รัฐ ให้ข้อมูลเท็จกับทางราชการ และเป็นบุคคลล้มละลายทางด้านความน่าเชื่อถือ เพราะ
1. โกหกว่า ใต้ถุนอาคาร เป็นอุโมงค์ลับ ซึ่งไม่เป็นความจริง
2. โกหกว่า เครื่องนับดิจิตอล "สัมมาอะระหัง" เป็นเครื่องมือติดต่อสื่อสาร
3. โกหกว่า อาคารบุญรักษา ซึ่งกำลังก่อสร้าง เป็นที่หลบซ่อนตัวของหลวงพ่อธัมมชโย เจ้าหน้าที่ ต้องเสียเวลา ยกกำลังพล เกือบ 50 นาย เข้าไปบุกตรวจ แต่ก็พบเพียงฝุ่น ที่กำลังก่อสร้างเท่านั้น
4. โกหกว่า อาคารภาวนา 60 ปี เป็นที่หลบซ่อนตัว แต่เจ้าหน้าที่ เข้าไปตรวจค้น 3-4 ครั้ง ก็พบเป็นอาคารที่ให้ญาติโยมมาปฏิบัติธรรม
5. โกหกว่า อาคารดาวดึงส์ เป็นที่หลบซ่อนตัว แต่ก็ไม่พบตัว เจอเพียงเครื่องเพิ่มออกซิเจนกับเตียงเปล่า
6. โกหก ว่า อาคาร 100 ปี ซึ่งยังไม่มีการเปิดใช้งาน เป็นที่พำนักของหลวงพ่อธัมมชโย ทั้งที่อธิบดี dsi และรองสุริยา มาตรวจสอบด้วยตัวเอง
7. บุคคลนี้ ตอนเป็นพระก็อยู่วัดไหนไม่ได้ เนื่องจาก ไม่ฝึกตัว เอาแต่ใจตัวเอง เอาความคิดตัวเองเป็นใหญ่ เข้ากับหมู่สงฆ์ไม่ได้ มีความเนรคุณครูบาอาจารย์ ใส่ร้ายป้ายสีหลวงพ่อธัมมชโย ทั้งๆ ที่ หลวงพ่อธัมมชโยเป็นผู้มีพระคุณส่งเสีย ให้เล่าเรียนในต่างประเทศ ไปอยู่วัดไหนก็มีปัญหากับวัดและเจ้าอาวาส เพราะไม่ทำตามระเบียบวินัยของวัดนั้น มีการฟ้องร้องเจ้าอาวาสที่ตนไปพำนักอยู่บ่อยๆ ก่อนลาสิกขา ก็ไปอยู่ตามอพาร์ทเม้น ไม่อยู่วัดตามปกติแบบพระสงฆ์
8. ปัจจุบันไม่มีงานการ เป็นหลักแหล่งชัดเจน เป็นแค่อาจารย์พิเศษ ไปตามที่ต่างๆ เพราะไปทำความวุ่นวายให้กับหน่วยงานต่างๆ จนไม่มีใครรับเป็นเจ้าหน้าที่ประจำ แต่น่าแปลกใจว่า อยู่ได้โดยไม่ทำงาน ไม่ทราบว่า เอาเงินมาจากไหน
9. ผลงานวิชาการออกมาก็ได้รับการตำหนิและวิพากย์วิจารณ์ อย่างมากมาย และไม่เป็นที่ยอมรับในวงวิชาการ
10. เมื่อไม่นานมานี้ได้ไปออกงานสัมมนาวิชาการ แล้วอ้างว่าเป็นตัวแทนวัดพระธรรมกายอีกด้วย
11. ตลอด 20 ปี ที่ผ่านมา มีความเชี่ยวชาญอย่างเดียวคือ โกหกเรื่องวัดพระธรรมกาย เพราะมีความแค้น เนื่องจากไม่ทำตามกฎระเบียบของทางวัด ไม่เคยอยู่จำพรรษาที่วัดเลย เมื่อไม่พอใจวัด ก็ประกาศลาออกและเขียนจดหมายลาออกด้วยตนเอง โดยที่ทางวัดไม่ได้บีบคั้นแต่อย่างใด แต่เมื่อไปไหนไม่ได้จะขอกลับมา ทางวัดให้ไปขอขมาต่อคณะสงฆ์ของวัดก็ไม่ทำ เมื่อไม่ขอขมาหมู่สงฆ์ จึงไม่ได้กลับเข้ามาอยู่ในวัด เพราะส่อให้เห็นว่า เป็นคนอกตัญญูและเนรคุณต่อครูบาอาจารย์
อย่างไรก็ตาม พระสนิทวงศ์ วุฑฒิวังโส กล่าวต่อว่า รัฐบาลไม่เชื่อเจ้าหน้าที่รัฐที่เข้ามาตรวจค้น แต่กลับเชื่อการข่าวที่หลอกลวงของกุนซือที่ดูเหมือนมีปัญญา มีปัญหาเรื่องสุขภาพจิต เป็นบุคคลล้มละลายทางด้านความน่าเชื่อถือ ถ้ารัฐบาลยังเชื่อ บุคคลที่ไม่มีคุณธรรม มีความอกตัญญูต่อครูบาอาจารย์ มีความเนรคุณคน รัฐบาลก็ไม่มีความชอบธรรม ไม่มีธรรมาภิบาล ในการบริหารจัดการเรื่องนี้ด้วยเช่นกัน.