ภายหลังออกมาแสดงความเห็นต่อปรากฏการณ์การดิ้นรน หลบเลี่ยงตัวเองไม่ให้ต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ทั้งที่มีข้อหลักฐานชี้ชัดเรื่องความผิด และถือเป็นหน้าที่ต้องนำพิสูจน์ว่าไม่ได้กระทำผิดตามข้อกล่าวหา สำหรับ "พระธัมมชโย" จนสถานการณ์บานปลายทำให้หลายคนก้าวข้ามสถานะความเป็นสงฆ์ของ "พระธัมมชโย" ไปโดยสมบูรณ์จากพฤติการณ์ในอดีตและปัจจุบันที่ผ่านมาย้อนกลับไปดูโพสต์หนึ่งของ "ดี้ นิติพงษ์ ห่อนาค" นักประพันธ์บทเพลงชั้นนำของไทย ซึ่งถือเป็นตัวอย่างคนไทยคนหนึ่งที่รู้สึกอย่างนั้น และพูดสื่อความได้อย่างชัดเจน ..
"เรียน คุณไชยบูลย์ครับ คุณก็เป็นคนปกติ ผ่านการเล่าเรียนต่าง ๆนานา มาจนบวชเป็นภิกษุ คุณทำอะไรกับศาสนาพุทธในไอเดียของคุณ มีคนตามรอย ชื่นชม เพราะวิถีคุณมีระเบียบดีงาม ต้องยอมรับว่า พระสงฆ์ไทยจำนวนมาก ที่สอบเอนทรานซ์โคตรง่าย เพื่อเป็นพระ ให้พ่อแม่กราบ ให้เจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดินกราบท่องอะไรไม่กี่คำในโบสถ์ ห่มเหลืองออกมา บางรูปยังติดยา แต่ถ้าเดินออกมาจากโบสถ์....พ่อแม่ต้องกราบนะ เจ้าฟ้าต้องกราบ...
คุณทำสิ่งเหล่านี้ ได้เป็นระเบียบครับ..แต่หลังจากนั้น ระเบียบ ปรัชญา กฎหมายบ้านเมืองเป็นคนละเรื่องวัดคุณมีระเบียบ ด้วยคนที่เลื่อมใสในระเบียบ ช่วยกันทำให้วัดคุณดูสะอาดสะอ้าน กว่าวัดที่มีหมาจรจัด มีพระเณรแอบกินเบียร์....แต่ปรัชญาคุณ ไม่ตรงกับปรัชญาพุทธ ทุกนิกาย ซึ่งอาจจะต้องถกเถียงเรื่องอุตริมนุษธรรม อวดอ้างคุณวิเศษ
พระสังฆราชองค์ก่อน มีบันทึกว่าคุณขาดจากความเป็นพระแล้ว...ผมก็ไม่รู้ว่า พวกห่าไหน ถึงไม่ทำตามพระบัญชา....มันถึงได้ยืดเยื้อ บ้านเรามันเป็นแบบนี้ มันมีเงินแทรกซึมไปหมด พระเพรอะ เจอรถโบราณ เจอลาภสักการะ ... ก็ทำงงไปหมด...
ตอนนี้คุณมีปัญหากับกฎหมายบ้านเมืองครับ...คุณไชยบูลย์ คุณจะห่มสีอะไร จะปาราชิกไหม นั่นเป็นเรื่องทางสงฆ์ ซึ่งผมไม่เคยเลื่อมใสมหาตาเถรสมาคมเลย....สำนักงานพระพุทธศาสนา ฯลฯ ฟ้ามาโปรดแท้เทียวนะ...ที่สังฆราชองค์ใหม่ คือของแท้
คุณไชยบูลย์ครับ...
คุณกำลังสร้างปัญหาใหญ่มากกับสังคมไทยครับ...
คุณคนเดียวเองครับ...
ทำให้ผมต้องเสียเจ้าหน้าที่เป็นพัน ต้องไปเล่นตี่จับกับคุณ...
ภาษีผมครับ ผมเครียดนะครับ..จากเคยขำ ตอนนี้ไม่ขำแล้ว...ผมไม่นับถือว่าคุณเป็นภิกษุแล้วนะครับ ผมเชื่อว่าคนจำนวนมากก็คิดเช่นนั้น...แต่ยังนับถือว่าคุณเป็นมนุษย์ด้วยกัน....
กรุณาทำให้เรื่องมันจบแบบง่าย ไม่สูญเสียความเจ็บปวดทั้งสาวก ทั้งกายทั้งใจ
ไม่เสียกำลังงานเจ้าหน้าที่และภาษีแห่งรัฐ แห่งพวกผมด้วย ง่าย ๆ ครับ ให้เจ้าหน้าที่ได้พบ เถอะครับแจ้งข้อหาอะไรกันไป....
ตอนนี้คุณเป็นคนที่ทุกคนจับตาที่สุดยิ่งกว่าใครในเมืองไทยคุณมีแบ็คอัพที่ใหญ่โตมโหฬารมาก...ไอ้คนที่มาพูดว่า คุณกลัวโดนซ้อม โดนสึก ย่ำยี ติดเชื้อฯ มันไม่เมคเซนส์ดอกครับ คุณมอบตัว มีสาวก ประกันตัว ฯลฯ เจ้าหน้าที่ดีเอสไออะไรเนี่ย เขาตัวกระจิ๊ดริดกว่าคุณมาก....ถ้าไม่ใช่ต้องกลัวข้อหาละเลยในการปฎิบัติหน้าที่ เขาก็คงเลิกยุ่งกับคุณละ เพราะคุณแบ็คอัพแข็งแรงมาก เขาก็ไม่อยากเหนื่อยขนาดนี้มั้ง
กราบเถิดครับคุณท่าน พระเดชพระคุณ
ให้บ้านเมืองมันสงบอีกสักเรื่องเถอะ...อย่าไปโทษเจ้าหน้าที่บ้านเมืองอะไรเลย...แค่คนเดียว..รับข้อหา พระก็ต้องมีความเป็นแมนนะเว้ย...ผมก็รู้สึกตามนี้ แต่อะไรจะมีนอกมีในยังไง กูผมไม่รู้ครับ แล้วต่อจากนี้ ลูกช้างจะไม่พูดเรื่องคดีนี้อีกแล้วครับ...เสื่อมปัญญาและอารมณ์มาก พูดเรื่องหมาต่อไปสบายใจกว่าขอรับ พระเดชพระคุณ...???
อย่างไรก็ตามถึงแม้จะมีกระแสกดดันทั้งทางโลกทางธรรม แต่ดูเหมือนว่า "พระธัมมชโย" กับบรรดาศิษย์สาวกยังคงเพิกเฉยต่อเสียงเรียกร้องและกฎธรรมชาติว่าด้วยการพิสูจน์ความผิด..ถ้าคิดว่าไม่ผิดตามข้อกล่าวหา อย่างที่ควรจะเป็น ในทางตรงข้ามสถานการณ์ขณะนี้กลายเป็นการปลุกระดม บิดเบือนการทำหน้าที่ของภาครัฐในทุกรูปแบบ แม้กระทั่งการสร้างข้อกล่าวหากับผู้ปฏิบัติหน้าที่ว่ามีเจตนาร้ายต่อวงการพุทธศาสนา และปิดกั้นการเข้าออกวัดธรรมกายจนทำให้เกิดความเดือดร้อนต่อพระสงฆ์และผู้ปฏิบัติธรรม ??
ล่าสุด "ดี้ นิติพงษ์" ได้โพสต์ข้อความที่ทำให้อดคิดตามไม่ได้ว่าต้องการสื่ออะไร สื่อถึงใคร ตามรายละเอียดดังนี้"พระพุทธเจ้า ทรงกล่าวว่าบัวมีสี่เหล่า...
บัวต่ำสุด คือ ต่ำตม รังแต่จะเป็นอาหารของเต่า ปลา ฯลฯ
บัวสูงขึ้นมาคือ บัวใต้น้ำ ซึ่งมีโอกาสเข้าใจ และพร้อมจะเบิกบาน
บัวสูงกว่านั้น คือ บัวปริ่มน้ำซึ่งกำลังจะเบิกบาน
บัวสูงสุด คือ บัวพ้นน้ำ สว่างไสว...
ไม่น่าเชื่อว่า...วันนี้ มีบัวเหล่าที่ห้า...
เป็นบัวขั้นสูงสุดที่เขาเชื่อมัน...
เป็นบัวที่สูงกว่าบัวเหนือน้ำ...
เป็นบัวที่เริ่มเหี่ยว...แล้วโผล่สูง
ชาวบ้านก็เริ่มสาว เอามาไปทำแกงสายบัว..."