วันนี้ 25 ก.พ. 60 หลวงปู่พุทธะอิสระ ได้โพสต์ข้อความผ่านเพจเฟสบุ๊ค "หลวงปู่พุทธะอิสระ "(Buddha Isara)" โดยมีเนื้อหาดังต่อไปนี้
และแล้วกบฏผีบุญตัวที่ ๓ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ก็เกิดขึ้นจนได้
๒๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๐
ผีบุญตัวแรกเกิดขึ้นในสมัยต้นราชวงศ์จักรี จนองค์ปฐมบรมกษัตริย์แห่งราชวงศ์จักรี ได้ทรงชำระล้างสังฆมณฑลและกิจการพระพุทธศาสนา ถึงกับทรงมีพระบัญชาถอดถอนพระสังฆราชที่ไม่ซื่อตรงต่อพระธรรมวินัยออกจากตำแหน่ง ว่ากันว่าพวกบริวารของผีบุญทุกคนถูกจับโกนหัว สักหน้า เฆี่ยนตี แล้วพาตัวไปตระเวนบกตระเวนน้ำ ป่าวประกาศให้ชาวเมืองได้รู้กันทั่ว
แล้วทรงให้หาตัวพระภิกษุผู้ทรงธรรมทรงวินัยมาทำหน้าที่ชำระอธิกรณ์ที่เกิดขึ้นในหมู่สงฆ์ โดยทั่วทั้งสังฆมณฑล ให้กลับมาบริสุทธิ์บริบูรณ์ เป็นที่น่าเลื่อมใสศรัทธา
พระภิกษุผู้เป็นประธานในการสังคายนาคณะสงฆ์ในครั้งนั้นคือ พระมหาเถระสี แหงวัดระฆัง ซึ่งต่อมาองค์ปฐมบรมกษัตริย์แห่งราชวงศ์จักรีในรัชกาลที่ ๑ สมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ได้ทรงสถาปนาให้ครองตำแหน่งพระสังฆราชพระองค์แรกของกรุงรัตนโกสินทร์
เวลาต่อมาในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ ได้เกิดกบฏผีบุญขึ้นอีกเป็นกลุ่มที่ ๒ ครั้งนี้ถึงขนาดซ่องสุมผู้คน สะสมเสบียงคลัง และยุทธปัจจัย และยุยงปลุกปั่นประชาชนให้กระด้างกระเดื่องต่ออำนาจรัฐ
ข้าหลวงต่างพระองค์รัชกาลที่ ๕ จึงทรงมีพระบัญชาให้หลวงสรกิจพิศาลมีคำสั่งไปถึงนายร้อยเอกชิตสรการผู้บังคับการกองทหารปืนใหญ่ นำกองทหารยกทัพไปทำการปราบปรามกองกำลังของกบฏผีบุญภาคอีสาน จนราบคาบ
เวลาล่วงเลยมาถึงยุคปัจจุบัน ไม่มีใครคาดคิดว่ากบฏผีบุญจักเกิดขึ้นในยุคนี้ ด้วยพฤติกรรมที่มักมาก สะสม ขยายอำนาจ อวดอุตริว่ามีอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์เพื่อสร้างศรัทธา เป็นต้นธาตุต้นธรรมอวตารมาปราบมาร ไม่ยอมรับกฎหมาย ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของคณะสงฆ์ ทั้งหมดนี้ล้วนมีอยู่ในตัวผีบุญกลุ่มพวกลัทธิทำจนตัวตาย
ฉันได้มีโอกาสพบปะพูดคุยกับเจ้าคณะภาค ๑ เจ้าคุณพระเทพสุธี ถามท่านตรงๆ ว่าทำไมไม่ใช้อำนาจทางการปกครองตามที่กำหนดไว้ในกฎมหาเถรสมาคม ฉบับที่ ๒๓ (พุทธศักราช ๒๕๔๑) ว่าด้วย ระเบียบการปกครองคณะสงฆ์ ความว่า
เจ้าคณะภาค มีอำนาจหน้าที่ปกครองคณะสงฆ์ในเขตของตน ดังนี้
(๑) ดำเนินการปกครองคณะสงฆ์ให้เป็นไปตามพระธรรมวินัย กฎหมาย กฎมหาเถรสมาคม ข้อบังคับ ระเบียบ คำสั่ง มติ ประกาศ พระบัญชาสมเด็จพระสังฆราช คำสั่งของผู้บังคับบัญชาเหนือตน
(๕) ควบคุมบังคับบัญชาเจ้าคณะและเจ้าอาวาส ตลอดถึงพระ ภิกษุสามเณรผู้อยู่ในบังคับบัญชาหรืออยู่ในเขตปกครองของตน และชี้แจงแนะนำการปฏิบัติหน้าที่ของผู้อยู่ในบังคับบัญชา ให้เป็นไปโดยความเรียบร้อย
และหากผู้ใต้บังคับบัญชาไม่ปฏิบัติตาม สามารถใช้อำนาจทางการปกรองสั่งถอดถอนออกจากตำแหน่ง หรือสั่งการให้สึกออกจากความเป็นพระ เมื่อเห็นว่าภิกษุผู้นั้นมีพฤติกรรมที่ละเมิดพระธรรมวินัย ละเมิดกฎหมาย และละเมิดคำสั่งมหาเถรสมาคม
ฉันถามเจ้าคณะภาคว่า ท่านได้ใช้อำนาจนี้ในการสั่งการไปยังธัมมชโยและภิกษุผู้อยู่ในวัดธรรมกายบ้างหรือไม่
ท่านเจ้าคณะภาคตอบว่า ผมประชุมแล้วสั่งการให้ออกมามอบตัวแล้วเป็นสิบๆ ครั้ง แต่กลับไม่ได้รับการตอบรับจากธรรมกาย แล้วจะให้ผมทำอย่างไร ผมตัวคนเดียว จะไปสู้รบปรบมืออะไรกับพวกเขาได้
นี่คือเครื่องแสดงให้เห็นได้ชัดๆ ว่า ลัทธิทำจนตัวตายนอกจากจะปฏิเสธกฎหมายไทยแล้ว และปฏิเสธการปกครองของเจ้าคณะปกครองอีก แล้วเช่นนี้จะไม่เรียกว่าเป็น "กบฏผีบุญ" จะให้เรียกว่าอะไร
พุทธะอิสระ