วันที่ 22 ก.พ. ร.ท.ดิเรก ใจอารีย์ ชุดปฏิบัติการมวลชน มณฑลทหารบกที่ 35 ค่ายพิชัยดาบหัก พร้อมชุดปฏิบัติการมวลชน นักสังคมสงเคราะห์ บ้านพักเด็กและครอบครอบจังหวัดอุตรดิตถ์ และ เจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลวังกะพี้ อ.เมืองอุตรดิตถ์ จ.อุตรดิตถ์ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจ นางบุญเรียม บุญเพ็ง อายุ 40 ปี ซึ่งอยู่ภายในบ้านปูนชั้นเดียว เลขที่ 244 หมู่ 8 ต.วังกะพี้ แม่ของ นายกฤษดา จอยสิทอง ซึ่งพิการแขนขาอ่อนแรง ไม่สามารถพูด หรือช่วยเหลือตัวเองได้ แม้ว่าจะอายุ 15 ปีแล้ว
นางบุญเรียม เล่าว่า ตอนท้องน้องเฟรม ตลอด 9 เดือน มีอาการปกติเหมือนคนท้องทั่วไป เมื่อถึงเวลาคลอดไปคลอดที่โรงพยาบาลอุตรดิตถ์ แต่ไม่สามารถคลอดตามปกติได้ โรงพยาบาลต้องใช้เครื่องดูดเด็กออกมา ทำให้น้องเฟรมต้องเข้าห้องไอชียูเด็กหลายสัปดาห์ โดยแพทย์บอกว่าเด็กขาดอ๊อกซิเจนนานเกินไป ต่อมาแพทย์อนุญาตให้ออกจากโรงพยาบาล มาอยู่ที่บ้าน และให้ไปกายภาพบำบัดที่โรงพยาบาล ตั้งแต่อายุ 2 เดือน จนถึง 3 ขวบ ก็ยังเดินไม่ได้ จึงหยุดนำลูกไปทำกายภาพบำบัดที่โรงพยาบาลดังกล่าว เพราะตนทำงานรับจ้างที่ร้าน ส.เคหะภัณฑ์ รายได้วันละ 300 บาท หากวันไหนลางานก็จะถูกหักค่าแรง ซึ่งขณะนี้ น้องเฟรม อายุ 15 ปีแล้ว แต่ก็ยังไม่สามารถพูด หรือช่วยเหลือตัวเองได้เลย เนื่องจากกล้ามเนื้ออ่อนแรง แขนขาอ่อนแรง ลีบเล็ก จึงต้องดูแลใกล้ชิด คอยอุ้ม ป้อนอาหาร อาบน้ำ พาเข้าห้องน้ำ แต่สามารถรับรู้ได้ทุกอย่าง เวลาอยากจะกินอะไร ก็จะมองสิ่งที่อยากกิน หรืออยากได้"ที่สงสารลูกมากที่สุด คือเวลาจะกินข้าวแต่ละครั้ง แม่จะต้องเคี้ยวข้าวให้ละเอียดแล้วป้อนน้องเฟรมถึงจะกิน เหมือนแม่นกป้อนเหยื่อให้ลูกนกอย่างไรอย่างนั้น แต่หากตนไปทำงาน ก็จะให้ยาย คือ นางอุ่นเรือน บุญเพ็ง อายุ 70 ปี เป็นผู้ดูแล ซึ่งหากคนอื่นมาเคี้ยวป้อนน้องเฟรมก็จะไม่กิน ทุกวันนี้ลำบากมาก สามีซึ่งเป็นพ่อของน้องเฟรม เสียชีวิตไป 11 ปีแล้ว ปัจจุบันอยู่กับสามีคนใหม่ ที่มีอาชีพรับจ้างเชื่อมเหล็ก รายได้ไม่แน่นอน และยังมีหนี้ที่ต้องผ่อนชำระค่าตู้เชื่อมและอุปกรณ์เชื่อมเหล็กกว่า 50,000 บาท นอกจากนี้ ได้รับเบี้ยพิการของน้องเฟรมเดือนละ 800 บาท รวมแล้วไม่เพียงพอ เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายในการดูแลน้องเฟรมเยอะมาก ทั้งค่าผ้าอ้อมสำเร็จรูป ค่าเดินทางพาไปหาหมอเพื่อตรวจสุขภาพเดือนละ 3 ครั้ง อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าเขาจะอยู่ในสภาพไหนก็คือลูก จะเลี้ยงดูกันไปจนกว่าจะตายจากกัน บางครั้งเห็นลูกเงยหน้ามองขึ้นไปบนฟ้า เคยลองถามลูกดูว่า มองฟ้าทำไม หนูอยากตายหรือเปล่า ลูกก็พยักหน้าและร้องไห้ คิดว่าเค้าคงสงสารเรา และไม่อยากอยู่ในสภาพแบบนี้" นางบุญเรียม เล่าทั้งน้ำตาด้าน นายประยุทธ เต่าแก้ว หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดอุตรดิตถ์ ได้ส่งนักสังคมสงเคราะห์ร่วมเดินทางตรวจเยี่ยมด้วย กล่าวว่า บ้านเด็กและครอบครัวฯ จะให้การช่วยเหลือเรื่องเงินสงเคราะห์เด็ก 3 เดือนครั้งๆ ละ 1,000 บาท และจะประสานไปยังสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดอุตรดิตถ์ ให้เงินช่วยเหลืออีกจำนวน 2,000 บาท รวมถึงมอบถุงยังชีพ ข้าวสารและของใช้จำเป็นอื่นๆ เพื่อเป็นการช่วยเหลือในเบื้องต้นในเบื้องต้น
สำหรับผู้ใจบุญ ที่ต้องการให้ความช่วยเหลือ น้องเฟรม สามารถโอนเงินช่วยเหลือได้ที่บัญชีธนาคารกรุงไทย สาขาอุตรดิตถ์ ชื่อบัญชี นางบุญเรียม บุญเพ็ง เลขบัญชี 501-0-98100-8