จากกรณีราชกิจจานุเบกษา ประกาศคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ฉบับที่ 5/2560 เรื่องมาตรการให้อำนาจกำหนดพื้นที่ควบคุม พื้นที่วัดพระธรรมกาย อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี รวมถึงพื้นที่หมู่ 7-13 ต.คลองสอง และพื้นที่หมู่ 7-11 ต.คลองสาม และนำกำลังเข้าตรวจค้นวัดพระธรรมกาย เพื่อจับกุมพระธัมมชโย อดีตเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ผู้ต้องหาฐานร่วมกันฟอกเงิน ตลอดช่วงเช้าวันที่ 16 กุมภาพันธ์นั้น
ความคืบหน้า เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 18 ก.พ. ที่วัดพระธรรมกาย จ.ปทุมธานี ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษหรือดีเอสไอ พร้อมด้วยผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ และคณะสื่อมวลชน เดินทางไปยังห้องรักษาอาการอาพาธ ของพระธัมมชโย ที่อาคารดาวดึงส์ ภายในวัดพระธรรมกาย เพื่อเข้าตรวจเครื่องทางการแพทย์ เครื่องไฮเปอร์แบริค แชมเบอร์ (Hyperbaric chamber) เพื่อตรวจสอบว่า เครื่องดังกล่าวมีการใช้งานล่าสุดเมื่อใดและอย่างไร ทั้งนี้เมื่อตรวจสอบเก็บหลักฐานเรียบร้อยแล้ว ได้กั้นบริเวณตึกดาวดึงส์ เป็นพื้นที่ห้วงหาม ห้ามใครเข้าพื้นที่ บริเวณอาหารดังกล่าว ทั้งนี้พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้เข้าตรวจค้นหมู่บ้านตะวันธรรมของวัดพระธรรมกาย แต่ก็ยังไม่พบพระธัมมชโย แต่อย่างใด
ด้านพระสนิทวงศ์ วุฒิวังโส ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กรวัดพระธรรมกาย กล่าวยืนยันว่า ไม่พบพระธัมมชโยมานานถึง 9 เดือน และทางวัดยินดีให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ในการเข้าตรวจค้น พร้อมขอให้ หัวหน้า คสช. ทบทวนยกเลิกประกาศมาตรา 44 เพราะกระทบต่อสิทธิพระและคณะศิษย์
ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศโดยรอบวัดพระธรรมกาย ยังคงมีเจ้าหน้าที่ตำรวจและดีเอสไอ ตั้งด่านตรวจตราและไม่ให้บุคคลเข้าไปยังบริเวณวัดพระธรรมกาย แต่มีการลดกำลังเจ้าหน้าที่ ทั้งนี้ที่บริเวณหน้าประตู 7 วัดพระธรรมกาย เจ้าหน้าที่ได้พบเห็นตัวเงินตัวทองปรากฏตัวอยู่ทางออกที่หน้าประตู 7 ซึ่งเมื่อได้เห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งตรวจทางเข้าออกของวัดพระธรรมกาย ก็เกิดอาการตกใจจึงพยายามหนีเข้าไปในวัด แต่เนื่องจากว่าประตูวัดปิด ทำให้ตัวเงินตัวทองหนีขึ้นไปบนช่องระบายอากาศที่เสาหน้าประตู 7 ทำให้หัวของมันติดคาช่องระบายอากาศอยู่ โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจที่อยู่ละแวกนั้นเกิดความสงสาร จึงได้นำกำลังเข้าไปช่วยดึงหัวของตัวเงินตัวทองออกมาได้และนำไปปล่อยบริเวณพื้นที่นอกวัดได้อย่างปลอดภัย