ลัทธิวิปริต!ตาสว่างแล้ว!!!“สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์”ระดมทุน สร้างวัตถุ สู่วันปิดฉากธรรมกาย

ทั้งนี้โดยได้ตีแผ่ไว้อย่างชัดเจนถึงพฤติกรรมของวัดพระธรรมกายว่า เป็นลัทธิวิปริต ซึ่งเป็นหนึ่งในประเด็นปัญหาใหญ่ของการเผยแพร่คำสอนที่คลาดเคลื่อนไปจากหลักพุทธศาสนา แต่ยังคงนำไปเผยแพร่ต่อศิษยานุศิษย์อย่างมีนัย เหตุนี้เองจึงอาจกล่าวได้ว่า ประพฤติวิปริตจากพระธรรมวินัยก็ร้าย แต่ทำพระธรรมวินัยให้วิปริตร้ายยิ่งกว่า และในพฤติการณ์เผยแพร่พระธรรมวินัยก็ดำเนินไปในลักษณะจาบจ้วง ลบหลู่ ย่ำยีพระธรรมวินัยให้ไขว้เขวและสร้างความหลงผิดกับประชาชนนอกจากนั้นสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ ได้ถ่ายทอดอีกว่า วัดพระธรรมกายวนเวียนอยู่กับการบริจาคทรัพย์ชนิดที่ส่งเสริมความยึดติด ถือมั่นในตัวตนและในตัวบุคคล อันอาจกลายเป็นแนวโน้มบั่นทอนสังคมไทยในระยะยาว พร้อมทั้งยังทำให้พระธรรมวินัยลางเลือน ข้อสำคัญก็คือความผิดเพี้ยนนั้น ไปเกี่ยวด้วยหลักการใหญ่ที่เป็นจุดหมายสูงสุดของพระพุทธศาสนา และวัดพระธรรมกายยังชักจูงให้ประชาชนได้หลงผิดใน4 เรื่องสำคัญคือ อิทธิฤทธิ์ปาฎิหาริย์ การทำบุญ เรื่องสิ่งก่อสร้างใหญ่โต และการระดมทุน ซึ่งปัจจัยที่หนุนให้ลัทธิธรรมกายได้เข้าไปบั่นทอนพุทธศาสนาก็มาจากสังคมที่มีความเจริญสูงแต่ทางวัตถุ แต่ตรงกันข้ามกับคนที่กลับมีปัญหาทางจิตใจ จึงทำให้คนเหล่านี้หันหาที่พึ่งทางใจ คือทางธรรม และสิ่งลี้ลับตามความเชื่อ และสุดท้าย การพัฒนาทางปัญญาของคนในชาติ จะเป็นหนทางแก้ปัญหาดับทุกข์ให้หมดสิ้นไป หรือคือการกู้วิกฤตแห่งศาสนาในที่สุด ตราบเท่าที่เราจะตาสว่างเมื่อใดเท่านั้น