จากกรณี วันที่ 16 ก.พ. 60 หลังจาก คสช. ประกาศใช้ ม.44 คุมวัดพระธรรมกาย คสช.ประกาศใช้มาตรา 44 ให้วัดพระธรรมกายเป็นพื้นที่ควบคุมห้ามบุคคลเข้าออก ส่วนเจ้าหน้าที่เตรียมเข้าดำเนินการตามกฎหมาย เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา มีประกาศคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช.ที่ 5/2560 เรื่องมาตรการให้อำนาจกำหนดพื้นที่ควบคุมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบังคับใช้กฎหมาย โดยคำสั่งนี้ให้วัดพระธรรมกายตลอดจนพื้นที่โดยรอบวัดพระธรรมกาย ในอำเภอคลองหลวง ในหมู่ที่ 7 ถึงหมู่ที่ 13 ในตำบลคลองสอง และหมู่ที่ 7 ถึงหมู่ที่ 11 ตำบลคลองสาม เป็นพื้นที่ควบคุม ตามคำสั่งนี้ ให้เป็นพื้นที่ควบคุม ปิดกั้นการเข้า-ออก เพื่อให้เจ้าหน้าที่เข้าปฏิบัติการตามอำนาจ ซึ่งมีผลตั้งแต่วันที่ 16 กุมภาพันธ์ เป็นต้นไป
หากย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2559 นพ.มโน เลาหวณิช อดีตลูกศิษย์วัดพระธรรมกาย เปิดเผยต่อผู้สื่อข่าวสปริงนิวส์ อ้างอิงข้อมูลจากสายข่าวว่า พระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ยังคงอยู่ในวัด สำหรับกระแสข่าวถึงพื้นที่เป้าหมายของเจ้าหน้าที่ในการเข้าตรวจค้นนั้น แม้ตนจะไม่ทราบว่าจุดใดบ้าง แต่คาดว่าน่าจะเป็นพื้นที่ 196 ไร่ ซึ่งเป็นพื้นที่ไข่แดงของวัดที่มีชั้นของการรักษาความปลอดภัยแน่นหนาที่สุด ห้ามบุคคลภายนอกผ่าน แม้กระทั่งคนในวัดก็ยังมีน้อยคนที่จะได้รับอนุญาตให้ผ่านเข้ามาได้ ซึ่งที่ดินผืนนี้เป็นพื้นที่เดิมของวัดพระธรรมกายในยุคบุกเบิกตั้งแต่ปี 2513
นพ.มโน กล่าวต่อว่า บริเวณดังกล่าวเป็นที่ตั้งของกุฏิหลายหลัง และมีอาคารภาวนาซึ่งเป็นอาคารชั้นเดียวขนาดประมาณ 500 ตารางเมตร ไม่มีป้ายบอกชื่ออาคาร ไม่มีแสดงอยู่ในแผนที่ใด ๆ พิกัดตั้งอยู่ส่วนหลังของวัดหรือชั้นในสุด ตั้งอยู่ใกล้กับกำแพงสูง 4 เมตร ติดถนนเลียบคลองแอน ซึ่งเป็นถนนเส้นที่มีการนำแท่งคอนกรีตมาวางขวางทางเอาไว้ โดยภายในอาคารมีห้องนอน ห้องน้ำ และห้องปั้นงานปั้น ที่มีประตูลับที่รถบุคคลภายนอกไม่สามารถผ่านจุดนี้ได้
นอกจากนี้ยังมีอาคารภาวนา 60 ปี ซึ่งมีลักษณะเป็นรูปจานบินขนาดเล็ก ตั้งอยู่ในพื้นที่ 200 ไร่ ที่อยู่คนละฟากกับพื้นที่ 196 ไร่ ภายในอาคารมีห้องนอนพิเศษตั้งอยู่ และมีเส้นทางเข้า-ออกทางลับ เป็นอุโมงค์ที่เชื่อมทะลุกับภายนอกวัด
นอกจากนี้ยังมีผู้ปกครองที่จะนำบุตรหลานไปโรงเรียนอนุบาลคลองสาม แต่ทางเจ้าหน้าที่ dsi ก็ไม่ยอมให้ผ่าน จนต้องกราบขอร้องทั้งน้ำตาว่าการกระทำเช่นนี้เด็กซึ่งเป็นอนาคตของชาติ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องทำไมต้องมาทำกับเด็กเช่นนี้ด้วย