เมื่อเวลา 00.25 น. วันที่ 15 ก.พ. 60 40 ร.ต.ท.สุทธิพันธ์ สามคุ้มพัน ร้อยเวร สภ.เมืองราชบุรี ได้รับแจ้งว่ามีเหตุรถเก๋งชนท้ายรถเก็บขยะของเทศบาลตำบลห้วยชินสีห์ ที่บริเวณริมถนนเพชรเกษม หมู่ที่ 4 ต.อ่างทอง อ.เมืองราชบุรี จึงพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่มูลนิธิประชานุกูลราชบุรี ไปตรวจสอบ
ในที่เกิดเหตุพบนายบุญชู แก้วทับ อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 9/17 หมู่ที่2 ต.ปากน้ำปราณ อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีมียาเสพติดไว้ในครอบครอง จำนวน 42,000 เม็ด การค้นพบครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากนายบุญชูขับรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีออส สีขาว หมายเลขทะเบียน 3กผ-8500 กรุงเทพฯ พุ่งชนท้ายรถเก็บขยะของเทศบาลตำบลห้วยชินสีห์ ที่กำลังทำการเก็บขยะอยู่บริเวณริมถนน จนด้านซ้ายของรถเก๋งได้รับความเสียหายยับเยิน แต่นายบุญชูไม่ได้บาดเจ็บแต่อย่างใด
เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบเหตุ ชาวบ้านรีบแจ้งให้เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบที่บริเวณริมรั้วบ้านของชาวบ้าน เพราะเห็นนายบุญชูพยายามนำสิ่งของไปซุกซ่อนไว้ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะไปถึงเมื่อตำรวจไปตรวจสอบก็พบถุงพลาสติกสีขาว ด้านในมีวัตถุที่ถูกห่อหุ้มด้วยเทปพันสายไฟสีดำ จำนวน 4 ก้อน เมื่อตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นยาบ้า เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวนายบุญชูไว้ และนำตัวมาสอบสวนขยายผลที่ สภ.เมืองราชบุรี พร้อมทั้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจวิทยาการเข้ามาตรวจพิสูจน์ยาบ้าที่พบว่าเป็นของจริงหรือไม่
การสอบสวนครั้งนี้ พ.ต.อ.วรณัฐ ผันผ่อน รองผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.ราชบุรี พร้อมด้วย พ.ต.อ.กิตติภพ ชมพูนุช ผกก.สภ.เมืองราชบุรี และพ.ท.ศุภวัฒน์ ประเทืองถิ่น ผู้บังคับกองพัน พลพัฒนาที่ 1 ค่ายศรีสุริยวงศ์ เข้าร่วมด้วย จากการตรวจค้นที่รถเก๋ง ยังพบห่อยาบ้าเพิ่มอีก 1 ห่อ รวมยาบ้าทั้งหมด 42,000 เม็ด
นายบุญชูให้การรับสารภาพว่า เมื่อประมาณ 3 ปีที่ผ่านมา เคยติดคุกในข้อหาค้ายาบ้าจำนวน 100 เม็ด และพ้นโทษมาได้ 3-4 ปี ก็มารับจ้างส่งยาบ้าอีก โดยไปรับยาบ้ามาจากชาวพม่าที่ จ.กาญจนบุรี ได้ค่าจ้างครั้งละ 20,000 บาท และจะนำไปส่งที่ จ.ประจวบฯ
ช่วงเกิดเหตุนั้นตนเองเกิดหลับใน จึงทำให้รถพุ่งไปชนท้ายรถเก็บขยะเข้าอย่างจัง และกลัวว่าเจ้าหน้าที่จะมาพบยาบ้าที่ซุกซ่อนอยู่บริเวณใต้คอนโซลรถ จึงรีบนำออกไปซ่อนไว้ข้างรั้วบ้านของชาวบ้าน แต่เจ้าหน้าที่ก็ไปพบเสียก่อน
เจ้าหน้าที่ตำรวจจะสอบปากคำนายบุญชูอย่างละเอียดอีกครั้งเพื่อทำการขยายผลหาแหล่งที่มาของยาบ้าต่อไป