เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 13 ก.พ. ร.ต.อ.ยศวรรธ์ รัตนศรี รองสว.(สอบสวน) สน.ราษฎร์บูรณะ รับแจ้งจาก ร.ต.ท.ยงยุทธ บุญเพ็ง รองสว.จร.สน.ราษฎร์บูรณะ ว่าขณะปฏิบัติหน้าที่อยู่ภายในป้อมสัญญาณไฟจราจร แยกราษฎร์บูรณะ รับแจ้งเหตุชิงทรัพย์ภายในธ.กสิกร สาขาบิ๊กซีราษฎร์บูรณะ แขวงบางประกอก เขตราษฎร์บูรณะ กทม. โดยคนร้ายหลบหนีขึ้นรถแท็กซี่โตโยต้า รุ่นอัลติส สีเหลือง ทะเบียน 4340 กทม. จึงติดตามรถคันดังกล่าวไป มุ่งหน้าไปถนนสุขสวัสดิ์(ขาออก)
ต่อมาคนร้ายลงจากรถบริเวณหน้าปากซอยสุขสวัสดิ์ 27 และวิ่งเข้าซอยสุขสวัสดิ์ 29 เข้าไปในบ้านเรือนประชาชน จากนั้นพยายามปีนขึ้นไปบนหลังคา ก่อนจะเสียหลักร่วงลงมา โดยชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์เข้าไปช่วยจับ
ภายหลังพบของกลางเงินสด 286,800 บาท ปืนปลอม 1 กระบอก และมีดคัตเตอร์ 1 อัน ก่อนจะควบคุมตัวมาสอบสวนที่สน.ราษฎร์บูรณะ โดยมีพล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น. พร้อมด้วยพล.ต.ต.สัมฤทธิ์ ตงเต๊า ผบก.น.8 พ.ต.อ.ชุมพล ชาญชนะโยธิน รองผบก.น.7 และพ.ต.อ.วราวัชร์ ธรรมสโรช ผกก.สน.ราษฎร์บูรณะ ทำการสอบสวน
สอบสวนทราบชื่อคนร้ายที่ก่อเหตุคือนายจัน อายุ 26 ปี สัญชาติลาว ให้การรับสารภาพว่า ได้เข้ามาในประเทศไทยประมาณ 1 เดือนที่ผ่านมา โดยประกอบอาชีพในร้านอาหารแห่งหนึ่งที่จ.นครราชสีมา ต่อมาได้เดินทางมาหาเพื่อนที่กทม. ย่านสะพานประชาธิปก แขวงสมเด็จเจ้าพระยา เขตคลองสาน กทม.
จากนั้นได้ดูข้อมูลเกี่ยวกับธ.กสิกรผ่านทางยูทูบ ก็เห็นว่าธนาคารดังกล่าวไม่มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย หรือรปภ. จึงวางแผนโดยเขียนในกระดาษว่า "ผมมีปืน ส่งเงินมา 2 แสน"
ก่อนก่อเกิดเหตุ ยังนั่งรถโดยสารไปยังธ.กสิกรไทย เพื่อดูให้แน่ใจว่าไม่มีรปภ.จริง จากนั้นไปซื้อปืนปลอม ในราคา 30 บาท และมีดคัตเตอร์ เพื่อใช้ในการก่อเหตุด้วย และหากหลบหนีไปได้ ตนจะนำเงินไปใช้จ่ายในประเทศบ้านเกิด แต่ก็มาถูกจับกุมได้เสียก่อน
ด้านนายพงศธร บุญเต็ม อายุ 38 ปี คนขับแท็กซี่ เล่าว่า ตนขับรถแท็กซี่รับผู้โดยสารทั่วไป จนกระทั่งมาเจอคนร้าย ยืนเรียกรถบริเวณหน้าบิ๊กซีราษฎร์บูรณะ เมื่อรับมา ได้ให้ไปส่งหน้าปากซอยสุขสวัสดิ์ 27 ซึ่งระหว่างทางนั้น ตนสังเกตเห็นอาวุธปืนใต้เสื้อของคนร้าย ตนจึงบอกว่าไม่ไปแล้ว คนร้ายจึงหยิบอาวุธปืนมาข่มขู่ แต่ตนสังเกตเห็นว่าเป็นปืนปลอม คนร้ายจึงหยิบมีดคัตเตอร์ขึ้นมาจี้ที่คอตน และเลื่อนมานั่งเบาะข้างคนขับ พร้อมสั่งให้ตนมาส่งปากซอยสุขสวัสดิ์ 27 เมื่อมาถึงบริเวณหน้าปากซอย คนร้ายยื่นเงินให้ 100 บาท แล้วหลบหนีไป
เบื้องต้นแจ้งข้อหาชิงทรัพย์ และมีอาวุธ(ปืนปลอม) ก่อนจะนำตัวส่งพนักงานสอบสวนสน.ราษฎร์บูรณะดำเนินคดีต่อไป