13 กุมภาพันธ์ ร.ต.อ.ชลธี เสาศิริ รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองบึงกาฬ อ.เมืองบึงกาฬ จ.บึงกาฬ รับแจ้งเหตุคนผูกคอตายที่บ้านพักท่าทรายพิมล บ้านท่าอินทร์แปลง ต.โคกก่อง อ.เมืองบึงกาฬ จึงเดินทางไปชันสูตรพร้อมด้วย พ.ต.ท.จรูญศักดิ์ ลำพุทธา รอง ผกก.สส. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสายสืบ แพทย์เวร รพ.บึงกาฬ และหน่วยกู้ภัยนทีธรรม ที่เกิดเหตุเป็นบ้านพักเก็บอุปกรณ์ดูดทรายตั้งอยู่ติดริมแม่น้ำโขง เป็นห้องพักชั้นเดียว พบศพนายอุดม ฤกษ์จันทร์ อายุ 60 ปี บ้านเลขที่ 177 หมู่ 5 บ้านท่าอินทร์แปลง ต.โคกก่อง อ.เมืองบึงกาฬ จ.บึงกาฬ อยู่ในสภาพศพใช้เชือกป่านผูกคอตัวเองติดกับขื่อห้อยโตงเตง ใส่เสื้อยืดสวมทับด้วยเสื้อคลุมลายพรางทหาร กางเกงวอร์มขายาวสีม่วง สวมรองเท้าแตะ ไม่พบบาดแผลใดๆ ตามร่างกาย คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 6 ชั่วโมง
สอบสวนนายบุญอุ้ม ยศเคน ผู้ใหญ่บ้านบ้านท่าอินทร์แปลง ซึ่งมีศักดิ์เป็นน้องเขยของผู้ตาย ทราบว่า หลังจากภรรยาเสียชีวิตไปแล้วหลายปี ผู้ตายก็ได้หนีออกจากบ้านมารับจ้างนอนพักเฝ้าท่าทรายให้นายจ้าง และผู้ตายให้เช่าที่ดินทำท่าทรายมาได้ 5 ปี เมื่อภรรยาตายจากไปหลายปี หัวใจจึงเกิดความว้าเหว่และเกิดความรักใคร่ชอบพอกับสาวรุ่นราวคราวเดียวกันและเป็นคนบ้านเดียวกันด้วย จึงได้บอกกับญาติและตนไปสู่ขอให้ เพราะความรักเริ่มสุกงอม กะจะจัดพิธีแต่งงานและฉลองความรักในวันวาเลนไทน์นี้ แต่ตนติดอบรมที่ จ.สกลนครยังไม่เสร็จ จึงเดินทางมาสู่ขอให้ไม่ทันก่อนวันวาเลนไทน์ ประกอบกับทราบว่าญาติๆ ฝ่ายเจ้าสาวก็ไม่เห็นดีด้วย เนื่องจากแต่ละคนมีอายุมากแล้ว อยากให้อยู่กับลูกหลานดีกว่า คาดว่าผู้ตายคงเกิดความน้อยใจที่ความรักไม่สมหวัง จึงตัดสินใจผูกคอตายลาโลกก่อนถึงวันวาเลนไทน์เพียงวันเดียว ญาติไม่ติดใจ เจ้าหน้าที่จึงมอบศพให้ตั้งบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป