อัลตร้าซาวน์ "หลินฮุ่ย" รออีก 134 วันรู้ผลท้องไม่ท้อง
ลุ้นระทึก! ข่าวดีหมีแพนด้าทูตสันถวไมตรีไทย-จีนครั้งนี้เปิดเผยเมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 10 เม.ย. นายประเสริฐ บุญตระกูลพูนทวี หัวหน้าโครงการวิจัยและจัดแสดงหมีแพนด้าในประเทศไทยพร้อมทีมงานสัตวแพทย์ประจำโครงการร่วมแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนและบันทึกภาพการฝึกหมีแพนด้าที่เข้ารับอัลตร้าซาวด์ตรวจภาวการณ์ตั้งครรภ์มายืนยันเป็นหลักฐานด้วยสีหน้าปลาบปลื้มยินดี โดยระบุว่า ตั้งแต่มีการจัดงาน ปิติหมีแพนด้าคู่ขวัญ ระหว่าง ช่วงช่วง และ หลินฮุ่ย ไปแล้วในวันที่ 9 พ.ย. 48 ที่ผ่านมาเพียงไม่กี่เดือน หลินฮุ่ย ก็มีท่าทีคล้ายเป็นสัดครั้งแรกประมาณกลางเดือน ม.ค. 49 โดยมีอาการชัดเจน เช่น การป้ายกลิ่น ส่งเสียงร้องคล้ายแพะ เชิญชวนให้ช่วงช่วงมาผสมพันธุ์หลายครั้งมาแล้ว
ทั้งนี้ นายประเสริฐ กล่าวด้วยว่า การติดตามขั้นตอนการผสมพันธุ์ยังสรุปไม่ได้ว่า หลินฮุ่ย ตั้งครรภ์จริงหรือไม่ จนกว่าทีมงานสัตวแพทย์จะวินิจฉัยโดยวิธีอัลตร้าซาวด์ คือการสร้างภาพโดยใช้การสะท้อนกลับของคลื่นเสียงความถี่สูงในช่วง 2-10 เมกกะเฮิร์ต ซึ่งเป็นเสียงที่มนุษย์ไม่ได้ยินและปัจจุบันกรรมวิธีอัลตร้าซาวด์สามารถช่วยตรวจการตั้งครรภ์ของสัตว์ถูกนำมาใช้อย่างแพร่หลาย เนื่องจากทราบผลได้เร็วและระบุจำนวนลูกในท้องได้แม่นยำสูงและยังสามารถติดตามการพัฒนาของตัวอ่อนได้อย่างดีอีกด้วย ขณะนี้ทีมงานได้อัลตร้าซาวด์หลินฮุ่ยตลอดเวลาเพื่อต้องการความชัดเจน
ทางด้าน สัตวแพทย์หญิงกรรณิการ์ นิ่มตระกูล สัตวแพทย์ประจำโครงการฯ เปิดเผยว่า กรณีหมีแพนด้า เป็นสัตว์ที่ถือว่าวินิจฉัยการตั้งครรภ์ได้ยากมาก เนื่องจากมักพบภาวะท้องเที่ยมได้ เพราะการฝังตัวของตัวอ่อนล่าช้า นอกจากนี้ลูกหมีแพนด้าในครรภ์ตัวเล็กมาก ส่งผลให้การตรวจปริมาณฮอร์โมนในปัสสาวะและอุจจาระไม่สามารถแยกได้ว่าตั้งท้องจริงหรือท้องเทียม ต้องใช้การฝึกควบคู่ไปกับการพิสูจน์ข้อเท็จจริง อย่างไรก็ตามหลินฮุ่ยมีลักษณะคล้ายเป็นสัดและมีการผสมพันธุ์กัน ถึงขณะนี้นับได้กว่า 70 วันแล้ว หากจะทราบผลแน่นอนต้องใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 134 วันขึ้นไป ไม่แน่ว่าอาจมีลูกถึง 2 ตัวก็เป็นได้และมีทีท่าจะมีข่าวดีด้วยคือหลินฮุ่ยมีอาการเต้านมบวม แต่ยังไม่ชัดเจน ทีมงานตัดสินใจใช้วิธีอัลตร้าซาวด์และหลินฮุ่ยก็ยอมให้ตรวจด้วยดีมาตลอด.