วันนี้ (5 ก.พ.60) เฟซบุ๊ก Wassana Nanuam ผู้สื่อข่าวสายทหารชื่อดัง ได้โพสต์เล่าเรื่องราวของ พลโท บรรยงค์ สิรสุนทร นายทหารผู้ปิดทองหลังพระ ระบุว่า...
ปิดทองหลังองค์พระ.... นี่ล่ะ....."พลโท บรรยงค์ สิรสุนทร"นายทหาร ที่มีบทบาทสำคัญ ในการรวบรวมเรื่องราว และพระบรมฉายาลักษณ์"สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มหาวชิราลงกรณ" รัชกาลที่10 เมื่อครั้งทรงดำรงพระยศ ร้อยเอก ร่วมปฏิบัติการทางทหาร ที่ฐานปฏิบัติการบ้านหมากแข้ง ด่านซ้าย จ.เลย เมื่อปี2511 โดยทำเป็น MV เผยแพร่ ในวโรกาส ทรงเจริญพระชนมายุ 60พรรษา และ นำมาแชร์กันต่อ ในระยะหลัง.....ครั้งนั้น ในหลวง ร.10 เสด็จอารัก ในหลวง ร.9 และพระราชินีฯ ศูนย์ผู้อพยพ ที่ชายแดนไทย-กัมพูชา แต่เมื่อได้รับรายงานถึงสถานการณ์ ที่บ้านหมากแข้ง สมเด็จพระราชินีฯ ทรงมีรับสั่งให้ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช ในเวลานั้น เดินทางไปในทันที ในเบื้องต้น ทรงขับเฮลิคอปเตอร์ ไปด้วยพระองค์เอง เมื่อจะเข้าพื้นที่ ทรงเห็นว่า ไม่อาจจอด ฮ.ได้ ด้วยสถานการณ์ในเวลานั้น ทรงมาเป็นผู้โดยสาร แล้วให้ hop เครื่อง แล้วทรงกระโดดลง วิ่งฝ่าความเสี่ยงอันตราย จากคมกระสุนของฝ่ายตรงข้ามลงมา อย่างกล้าหาญ....ก่อนทรงมาประทับแรม และออกลาดตระเวณในพื้นที่ เยี่ยงทหารทั่วไป....ตินนี้ กองทัพภาค3 จัดสร้างอุทยานเฉลิมพระเกียรติ แล้ว
ตอนนี้ บิ๊กเสือ พลเอกพิจิตร กุลละวณิชย์ อดีตองคมนตรี และ พลโทบรรยงค์ กำลังสร้างอุทยานเฉลิมพระเกียรติ ร.9 และ ร.10 ที่เขาค้อ เพชรบูรณ์ จะเปิด 20 กพ.นี้ โดยมีพี่น้องชาวเขา และที่เคยร่วมรบในพื้นที่ร่วมงาน
ทั้งนี้ ถ้าจะเล่าถึงบ้านหมากแข้ง ต.กกสะทอน อ.ด่านซ้าย จ.เลย คงต้องย้อนกลับไปช่วงปี พ.ศ.2511 ที่เป็นช่วงประเทศไทยทำสงครามกับลัทธิคอมมิวนิสต์ พื้นที่แห่งนี้ เต็มไปด้วยสงครามการสู้รบ จนกระทั่งเมื่อวันที่ 21 ธันวาคม พ.ศ.2516 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินทรงเยี่ยมบ้านหมากแข้ง เพื่อสร้างขวัญกำลังใจให้แก่เจ้าหน้าที่พลเรือน ตำรวจ ทหาร และประชาชนในพื้นที่
และภายหลังจากที่พระองค์เสด็จฯ ยังบ้านกกสะทอนเป็นครั้งแรก มีพระราชดำริตั้งโครงการเย็นศิระขึ้นมา ให้มีการสร้างโรงเรียนในระดับประถมขึ้นที่บ้านหมากแข้งเป็นแห่งแรกของ ต.กกสะทอน และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พร้อมด้วยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี เสด็จฯ แทนพระองค์มาทรงเป็นประธานในพิธีเปิดป้ายโรงเรียนพระราชทานและโครงการเย็นศิระ บ้านหมากแข้ง
ต่อมา เมื่อปลายเดือนตุลาคม พ.ศ.2519 พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยได้ปะทะยิงสู้รบเจ้าหน้าที่ตำรวจ เป็นเหตุให้เครื่องบินตก 1 ลำ ในวันที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ.2519 หลังจากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวไม่นาน ร้อยเอกสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฎราชกุมาร (พระอิสริยยศในขณะนั้น) เสด็จฯ ทรงเยี่ยมเพื่อสร้างขวัญและกำลังใจในการสู้รบ ทรงออกบัญชาการรบที่แนวหน้าด้วยพระองค์เอง นับว่าเป็นความกล้าหาญอย่างยิ่ง และสร้างขวัญกำลังใจให้กับชาวบ้านและบรรดาทหารขณะนั้นเป็นอย่างมาก
และขณะที่ร้อยเอกสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ เสด็จฯ โดยเฮลิคอปเตอร์เพื่อไปยังแนวหน้านั้น ก็ได้มีการยิงถล่มจากพรรคคอมมิวนิสต์ฯ ทำให้เฮลิคอปเตอร์พระที่นั่งไม่สามารถลงจอดได้ เหตุการณ์ในวันนั้นชาวบ้านในพื้นที่เล่าว่า พระองค์ทรงกระโดดลงมาจากเฮลิคอปเตอร์ ความสูงประมาณ 12 เมตร แล้ววิ่งหลบฝ่ากระสุนที่ปลิวว่อนไปมาอย่างกล้าหาญ จากนั้นพระองค์จึงทรงวิเคราะห์และวางแผนการรบให้กับทหารในพื้นที่ ออกลาดตระเวน อยู่ยามเช่นเดียวกับทหารคนอื่นๆ
ที่บ้านหมากแข้ง ต.กกสะทอน อ.ด่านซ้าย จ.เลย แห่งนี้ พระองค์ได้ประทับแรมที่ฐานปฏิบัติการบ้านหมากแข้งเป็นเวลา 1 คืนจึงเสด็จฯ กลับ และได้เสด็จฯ มาเยี่ยมเยือนอีกครั้งหนึ่งในวันที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ.2519 ต่อมาพรรคคอมมิวนิสต์ในประเทศไทยประกาศยอมแพ้ สงครามสู้รบจึงสิ้นสุดลงในปี พ.ศ.2525