11.30 น.วันที่ 27 ม.ค. ที่วัดประดู่ทรงธรรม ม.4 ต.ไผ่ลิง อ.พระนครศรีอยุธยา มีการจัดงานศพให้กับผู้เสียชีวิต ปรากฏว่าผู้ที่ถูกระบุว่าเสียชีวิตกลับโผล่มายืนยันว่ายังมีชีวิตอยู่ ทำให้ทางญาติถึงกับงงไปตามๆกัน และที่ศาลาธรรมสังเวท ภายในวัดประดู่ทรงธรรม ปิดอยู่ ไม่มีญาติของผู้เสียชีวิตหรือผู้มาร่วมงาน มีเพียงนายประสาน มีสมโรจน์ อายุ 58 ปี สัปเหร่อของวัดนั่งอยู่
เมื่อเปิดศาลาพบว่าภายในมีการจัดเครื่องตั้งและหีบศพประดับด้วยดอกไม้อย่างสวยงาม ส่วนผู้เสียชีวิตที่อยู่ภายในโลงเย็นใกล้กันนั้น ระบุว่าเป็น นายกฤษณะ สุขกลิ่น อายุ 44 ปี ทั้งนี้ นายประสาน สัปเหร่อ เปิดเผยว่า นายนตรี พันธุ์ชงค์ อายุ 45 ปี เป็นผู้ติดต่อนำศพของผู้เสียชีวิตมาที่วัดตั้งแต่เมื่อวันที่ 25 ม.ค. โดยระบุในใบมรณะบัตรเป็นนายกฤษณะ สุขกลิ่น น้องคนละบิดาซึ่งถูกรถชนเสียชีวิตบริเวณถนนสายอุทัย-หนองน้ำส้ม หน้า หจก.เอสรีไซเคิล อ.อุทัย เมื่อเวลา 8.30 น.วันที่ 24 ม.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งตอนที่นำศพมานั้นมีเอกสารใบมรณะบัตรถูกต้อง จึงดำเนินการตามขั้นตอนจนถึงการสวดพระอภิธรรมศพในคืนแรกคือวันที่ 25 ม.ค. จนกระทั่งเมื่อวันที่ 26 ม.ค.ตอนสายได้รับแจ้งจากนายนตรี ว่า จะไม่สวดศพของนายกฤษณะ แล้ว เนื่องจากนายกฤษณะ ยังไม่เสียชีวิต ซึ่งตั้งแต่ทำหน้าที่สับปะเหร่อมา 30 ปี ไม่เคยเจอเหตุการณ์เช่นนี้ และตอนนี้ก็ไม่ทราบว่าคนที่อยู่ในโลงเย็นเป็นใคร
ขณะที่ นายนตรี เปิดเผยว่า "รู้สึกดีใจที่น้องชายไม่ได้เสียชีวิต พอทราบข่าวว่าผู้เสียชีวิตเป็นน้องชาย ก็ตกใจ เนื่องจากมีบัตรประชาชนตกใกล้ที่เกิดเหตุ จึงไปดูศพและเห็นว่ามีลักษณะคล้ายจึงนำมาบำเพ็ญกุศล โดยไม่ได้ตรวจดูอย่างละเอียด จู่ๆญาติที่ จ.นครสวรรค์ โทรศัพท์มาบอกว่า น้องชายไปหาที่ จ.นครสวรรค์ จึงได้พูดคุยกันและตกใจที่ไปรับศพใครมาก็ไม่รู้ และได้จัดเตรียมงานไปหลายวันแล้ว แต่ก็ถือว่าทำศพให้คนตาย จากนั้นจึงไปแจ้งความแล้วมอบให้มูลนิธินำศพกลับไปดำเนินการสืบหาญาติ
ต่อมานายนตรี พร้อมด้วยนายกฤษณะ (เสื้อสีเหลือง) ได้เดินทางเข้าพบ ร้อยตำรวร.ต.อ.พิเชษฐ์ อินทสูตร รอง สว.(สอบสวน) สภ.อุทัย เพื่อลงบันทึกประจำวัน และยืนยันว่านายกฤษณะ ไม่ได้เสียชีวิต ซึ่งทางตำรวจได้รับเรื่องและตรวจสอบเอกสารพร้อมทั้งรายงานผู้บังคับบัญชา
ส่วนการที่มีการเข้าใจผิดว่านายกฤษณะ เสียชีวิตนั้น เกิดจากการที่นายกฤษณะ เดินทางไป จ.นครสวรรค์ โดยขึ้นรถไฟแล้วทำกระเป๋าสตางค์ตกหายเมื่อหลายวันก่อน จากนั้นเกิดเหตุชายไม่ทราบชื่อถูกรถชนเสียชีวิต เบื้องต้นสันนิษฐานว่าเป็นคนเลี้ยงเป็ดไล่ทุ่ง และพบบัตรประชาชนของนายกฤษณะ ในกระท่อมริมถนนใกล้ที่เกิดเหตุ จึงทำให้เข้าใจว่าผู้เสียชีวิตคือ นายกฤษณะ ซึ่งต่อมาญาติเดินทางไปรับศพก็ยืนยันว่าเป็นนายกฤษณะ จึงได้นำศพกลับมาบำเพ็ญกุศลดังกล่าว