หลังจากที่ นายยุทธนา ป่าไม้ ผู้อำนวยการเขตสัมพันธวงศ์ แจ้งว่า ตามที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้มีมติให้ทางราชการไว้ทุกข์มีกำหนดเป็นเวลา 1 ปี เพื่อเป็นการไว้อาลัยแด่ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เสด็จสวรรตค ในวันที่ 13 ตุลาคม 2559 คณะกรรมการจัดงานเทศกาลตรุษจีนเยาวราช จึงมีมติ เห็นควรงดการจัดงานประเพณีตรุษจีนเยาวราช ประจำปี 2560 จึงขอประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้ทราบโดยทั่วกัน
ขณะที่ พลตำรวจโทอำนวย นิ่มมะโน รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวว่า กทม.ได้วางมาตรการ และ แนวทางการเตรียมความพร้อมป้องกันอัคคีภัยในช่วงเทศกาลตรุษจีน โดยกำหนดปล่อยแถวเจ้าหน้าที่เทศกิจเฝ้าระวังและป้องกันภัยในช่วงเทศกาลตรุษจีนในวันที่ 26 มกราคมนี้ เวลา 10.00 น. ที่บริเวณลานคนเมือง
แต่การป้องกันอัคคีภัยที่ดี ที่สุด คือ การป้องกันกับผู้ที่จะทำให้เกิดอัคคีภัย โดยเฉพาะเจ้าของอาคาร บ้านเรือนหรือประชาชน ที่จุดธูปและเทียนไหว้บรรพบุรุษ ไม่ควรจุดธูปและเทียนทิ้งไว้แล้วออกจากบ้าน ควรดับหรือรอให้ธูปและเทียนที่จุดดับเรียบร้อยก่อนจึงออกจากบ้านเพื่อความปลอดภัย
ส่วนที่จังหวัดนครราชสีมา บรรยากาศก่อนถึงเทศกาลตรุษจีนปีนี้ถือว่าซบเซากว่าทุกปี โดยเฉพาะที่บริเวณซอยตรอกจันทร์ เทศบาลนครนครราชสีมา ซึ่งเป็นแหล่งรวมร้านค้าจำหน่ายเสื้อผ้าตามเทศกาล บรรดาร้านค้าได้เริ่มนำเสื้อผ้า สำหรับสวมใส่ในวันตรุษจีน มาจัดวางจำหน่ายเต็มร้าน ทำให้ทั้งร้านเต็มไปด้วยเสื้อผ้าโทนสีแดง ซึ่งเป็นสียอดนิยมสำหรับเทศกาล แต่กลับพบว่าประชาชนทยอยมาเลือกซื้ออย่างบางตา แต่ละร้านค้าบ่นเฉลี่ยยอดขายตกลงประมาณ 20% จากปีก่อนๆ
สอบถามจากนายพิทยาธร ใหญ่สมพงษ์ เจ้าของร้านค้าซอยตรอกจันทร์ กล่าวว่า ปีนี้ชุดที่ได้รับความนิยมก็ยังคงเป็นโทนสีแดงอยู่ แต่ก็มีโทนสีขาว และสีดำ ซึ่งปักลายดิ้นทองเข้ามาเสริม เนื่องจากอยู่ในช่วงระหว่างการไว้อาลัยต่อการเสด็จสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เผื่อว่าจะมีลูกค้าซื้อไปใส่ด้วย ชุดที่ได้รับความนิยมมากในช่วงนี้คือ ชุดอาตี๋ และอาหมวย ของเด็กเล็กอายุไม่เกิน 3 ขวบ เพราะเอาไว้ให้เด็กๆ ใส่เพื่อรับซองอั่งเปาจากผู้หลักผู้ใหญ่
รองลงมาเป็นชุดสุภาพสตรี ที่เป็นผ้ายืดเข้ารูป และชุดทรงยาว ส่วนลายที่มียอดจำหน่ายสูงที่สุด คือลายมังกร และลายปัก ราคาตัวละ 250 - 350 บาท ส่วนเสื้อยืดราคา 150 - 250 บาท ขณะนี้มีลูกค้าที่มาจากหน่วยงานสั่งซื้อเป็นล็อตใหญ่ ครั้งละ 20 - 50 ตัว เพื่อนำไปสวมใส่ในหน่วยงาน ทำให้บรรยากาศเริ่มคึกคักขึ้นมาบ้าง แต่โดยภาพรวมเมื่อเทียบกับปีที่แล้วก็ถือว่าซบเซา
สำหรับประเทศไทยในปีนี้ นับว่าเป็นการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ เมื่อพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ได้เสด็จสู่สวรรคาลัย สร้างความโศกเศร้าสู่พสกนิกรชาวไทย เมื่อวันตรุษจีนได้มาถึง ทำให้ชาวไทยเชื้อสายจีนได้ตระหนักถึงการสูญเสียในครั้งนี้ ถึงแม้เทศกาลตรุษจีนหรือวันขึ้นปีใหม่จีน ชาวไทยเชื้อสายจีนจะนิยมใส่ กี่เพ้า หรือเสื้อผ้าสีแดง ซึ่งถือเป็นสีที่เป็นมงคล เป็นการไล่ปีศาจร้ายให้ออกไป และการใส่สีดำหรือขาวเป็นสิ่งต้องห้าม ซึ่งสีเหล่านี้ถือว่าเป็นสีแห่งการไว้ทุกข์ แต่ในปีนี้ชาวไทยกลับหันมาหาซื้อ กี่เพ้า สีดำสวมใส่ แสดงถึงความรักที่มีต่อ "ในหลวงรัชกาลที่ 9 " ของเราอย่างมาก
กี่เพ้า คืออะไร
กี่เพ้า ในภาษาจีนเรียกว่า "ฉีผาว" เป็นเครื่องแต่งกายสำหรับสตรีชาวจีน มีลักษณะเหมือนเสื้อ มีชายเสื้อยาวปกคลุมท่อนขา ขนาดพอดีตัว ด้านข้างมีตะเข็บผ่าเพื่อให้ก้าวขาได้สะดวก รูปแบบของฉีผาวในปัจจุบัน ได้รับการปรับปรุงในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1920 ในเมืองเซี่ยงไฮ้ ให้มีรูปทรงแนบกับสรีระ เพื่อเน้นทรวดทรงของผู้สวมใส่ เป็นแฟชั่นที่นิยมในสังคมคนชั้นสูงของจีนในช่วงปลายราชวงศ์ชิง จนถึงช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง มีการดัดแปลงให้ชายฉีผาวสั้นลง ปรับปรุงแบบคอปก และเนื้อผ้าแบบต่างๆ
ฉีผาว เป็นเครื่องแต่งกายของหญิงแมนจูในยุคราชวงศ์ชิงในคริสต์ศตวรรษที่ 17 มาจากคำว่า ฉี และ ผาว
ในปี ค.ศ. 1636 ผู้ปกครองจีนในขณะนั้นได้ออกกฎหมายบังคับให้ทุกคน รวมทั้งชาวฮั่นให้แต่งกายและตัดผมแบบแมนจู
ในภาษาอังกฤษเรียกเครื่องแต่งกายแบบนี้ว่า Cheongsam
ซาน จี้ฟาง เขียนบทความถึงกี่เพ้าในนิตยสารข่าวเป่ยจิงรีวิว ว่า ในทศวรรษ 1980-1990 ชุดกี่เพ้าปรากฏโฉมใหม่ที่ใส่กันเฉพาะในหมู่สาวๆ ที่เป็นพนักงานต้อนรับตามโรงแรมและภัตตาคาร ชุดกี่เพ้าแบบนี้ตัดเย็บลวกๆ เน้นแต่สีสันฉูดฉาดและกระโปรงสั้นเกินไป ทำลายภาพเดิมของกี่เพ้าไปโดยปริยาย
หรืออย่าง เจ้า จินหลี่ สาวพนักงานบริษัทโฆษณา กล่าวว่า ในตู้เสื้อผ้าของตน ไม่มีชุดกี่เพ้าแม้แต่ตัวเดียว ตนไม่อยากใส่ เพราะกลัวคนคิดว่าทำงานเป็นสาวต้อนรับหน้าร้านอาหาร หรือแม้แต่โชว์เกิร์ล
อย่างไรก็ตาม หวัง จินเฉียว เจ้าของและผู้ก่อตั้งบริษัท เป่ยจิง เก๋อเก๋อ ฉีเพ้า ผู้นำการผลิตชุดกี่เพ้าในจีน กล่าวว่า คนรุ่นใหม่มิควรลืมหรือเมินชุดกี่เพ้า เพราะชุดนี้แสดงถึงบางสิ่งที่ถ่ายทอดจากอดีตและเข้ากับปัจจุบันได้เป็นอย่างดี "ชุดของจีนเป็นความต่อเนื่องทางวัฒนธรรมประเพณีที่ผสมผสานกับชีวิตยุคใหม่ได้ เราควรจะใส่ชุดกี่เพ้าในงานต่างๆ รวมถึงปรับให้ใส่สบายในชีวิตประจำวันได้" จิน ไท่จุน กล่าวเสริม
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
