ตร.เผยสับ วาปี เคยขึ้น โรงพักเรณูนคร อ้างเป็นพยาน ให้ชายอีกคนว่าเป็นคนขับรถชนในคดีครูจอมทรัพย์เมื่อ ปี "56 แต่พอปี "57 กลับอ้างว่าเป็นคนขับเอง เตรียมส่งหลักฐานให้ศาล พยานที่เห็นเหตุ การณ์รถชนคดีครูจอมทรัพย์ ยันคนขับรถชนเป็นผู้ชาย ใส่เสื้อแขนยาว รองเท้าหนัง หลังชนก็เปิดประตูลงมาดูพักหนึ่งก่อนขึ้นรถขับหนีไป ยอมรับช่วงนี้ผวาหนักกลัวการออกมาเป็นพยานครั้งนี้จะกลายเป็นความขัดแย้งให้ถูกอุ้ม
เมื่อวันที่ 21 ม.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีครูจอมทรัพย์ แสนเมืองโคตร ที่ร้องกระทรวงยุติธรรมเพื่อขอให้รื้อฟื้นคดีที่ศาลฎีกาตัดสินจำคุกฐานขับรถโดยประมาท ทำให้ผู้อื่นเสียชีวิต เนื่องจากมีพยานหลักฐานใหม่เป็นนายสับ วาปี ที่ระบุว่าเป็นผู้ขับรถชนเองออกมายืนยัน ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจระบุว่าการตรวจสอบการทำคดีของพนักงานสอบ สวนไม่มีข้อบกพร่อง แถมยังพบขบวนการรับจ้างติดคุกแทน ขณะที่รถของนายสับที่ อ้างว่าขับชนนั้นขายไปตั้งแต่ปี 2547 ก่อน เหตุรถชน โดยผู้ซื้อนำไปใช้ในไร่อ้อยตลอด นอกจากนี้ ยังพบว่ารถยนต์ที่นายสับอ้างเป็นคนละยี่ห้อกับที่ขับชนคนตาย ตามที่นำเสนอไปก่อนหน้านี้
ความคืบหน้าเรื่องนี้ นางทองเรศ วงศ์ศรีชา วัย 51 ปี อาชีพทำนา ซึ่งเป็นเพื่อนของนางทัศนีย์ หาญพยัคฆ์ อายุ 61 ปี และเป็นหนึ่งในพยานที่เห็นเหตุการณ์ที่นายเหลือ พ่อบำรุง ถูกรถชนตาย เปิดเผยว่าหลังตกเป็นข่าว ตลอด 2-3 วันที่ผ่านมามีนักข่าวโทรทัศน์จากหลายช่องเดินทางมาสัมภาษณ์ตนถึงบ้านพัก ก่อนนำไปออกอากาศ และยังมีรายการโทรทัศน์ข่าวรายการหนึ่งโทรศัพท์มาถามตนเรื่องที่ตนไปขึ้นศาลพร้อมกับนางทัศนีย์
"ดิฉันก็ให้สัมภาษณ์สดออกอากาศ ยืนยันคำเดิมว่าคนขับรถชนนายเหลือวันนั้นสวมเสื้อแขนยาว ใส่รองเท้าหนัง หลังคนร้ายเป็นชายขับรถชนแล้วก็เปิดประตูฝั่งคนขับลงจากรถมาสักพัก ก่อนขึ้นรถเร่งเครื่องหลบหนีไป นักข่าวจะถามกี่ครั้งก็บอกไปว่าคนที่เปิดประตู รถเป็นผู้ชาย ไม่ใช่ผู้หญิง ซึ่งก็เป็นไปตามที่ให้การในชั้นศาลไปแล้ว" นางทองเรศกล่าวย้ำ
เมื่อถามว่าออกมาเป็นพยานเช่นนี้กังวลหรือไม่ นางทองเรศกล่าวว่า ก็กลัวเรื่องที่ให้ข่าวไปอยู่เหมือนกัน เพราะต้องอาศัยอยู่บ้านคนเดียว สามีตนตายตั้งแต่ปี 2540 มีลูก 2 คน คนหนึ่งก็แยกไปมีครอบครัว ลูกคนเล็กก็ต้องตระเวนไปเล่นดนตรีเพราะเป็นมือกลอง ช่วงกลางคืนต้องคอยระมัดระวังและอยู่แต่ในบ้าน ไม่กล้าเดินเพ่นพ่านออกไปไหนเพราะกลัวคนมาอุ้มไปฆ่า
ด้านนายอำนวย โกมินทรชาติ อดีต ผอ. โรงเรียนแห่งหนึ่งในอำเภอโคกศรีสุพรรณ กล่าวว่า ในฐานะที่เคยรู้จักกันและในส่วน ผู้บังคับบัญชามีความเข้าใจและเห็นใจ อยากให้ครูที่มีอาชีพเดียวกันออกมาให้กำลังใจกัน เราไม่ได้คิดว่าจะถูกจะผิด แต่มาให้กำลังใจเท่านั้น ส่วนเรื่องนั้นก็เป็นเรื่องของเขา อย่างไร ก็ตาม ไม่คิดว่าครูจะโกหก เพราะครูย่อมมีความสำนึกอยู่แล้ว
รายงานข่าวจากทีมสืบสวนพบว่า นายสับ วาปี อายุ 60 ปี ที่ลงบันทึกประจำวันที่สภ. นาโดน จ.นครพนม เมื่อปี 2557 ว่าเป็นผู้ขับรถชนคนตายนั้น ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 24 ธ.ค. 2556 นายสับ ได้เดินทางพร้อมคณะนำโดยนายสุริยา นวนเจริญ พานายเสริฐ รูปสะอาด อายุ 53 ปี ไปที่สภ.เรณูนคร จ.นครพนม เพื่อขอรับผิดชอบในคดีรถชนของครูจอมทรัพย์
แต่ครั้งนั้นระบุว่านายเสริฐ เป็นคนขับชน ขณะที่นายสับ รับว่าเป็นเจ้าของรถ ทะเบียน บค 56 มุกดาหาร ที่ขายให้นายเสริฐไปก่อนที่จะเกิดอุบัติเหตุ อย่างไรก็ตามในวันที่ 19 พ.ค. 2557 นายสับ กลับเข้าพบตร.สภ.นาโดน อ้างว่าตัวเองเป็นผู้ขับรถชนเอง ซึ่งพนักงานสอบสวนจะนำประเด็นนี้ส่งให้ศาลพิจารณาในวันที่ 8-10 ก.พ.นี้ด้วย